ผลกระทบภาคการท่องเที่ยว โดยกระทรวงวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยวเกาหลีใต้ ประกาศเตรียมยกระดับมาตรการช่วยเหลือภาคการท่องเที่ยวในประเทศ หลังจากมีบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านการท่องเที่ยวจำนวนมากสนใจสมัคร โครงการเงินกู้ แบบไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกันมูลค่ากว่า 1 แสนล้านวอน หรือประมาณ 2,600 ล้านบาท ของรัฐบาล โดยตามข้อมูลจากทางการ ระบุว่า จนถึงวันที่ 10 เมษายน มีบริษัทท่องเที่ยวมากกว่า 1,400 แห่งยื่นใบสมัครขอเงินกู้แล้ว รวมมูลค่า 8 หมื่นล้านวอน ทำให้เจ้าหน้าที่คาดการณ์ว่า โครงการออกเงินกู้ดังกล่าวจะหมดในกลางเดือนหน้า
นอกจากนี้รัฐบาลเกาหลีใต้ยังออกมาตรยกเว้นการชำระหนี้เงินกู้ให้กับบริษัทท่องเที่ยวต่างๆ เป็นระยะเวลา 1 ปีด้วย คิดเป็นเงินต้นและดอกเบี้ยที่บริษัทต่างๆ ต้องชำระเป็นเงินประมาณ 1 แสน 5 หมื่นล้านวอน โดยอุตสาหกรรมโรงแรมเป็นผู้ที่ได้รับผลประโยชน์จากโครงการนี้มากที่สุด เพราะ ได้ยกเว้นการชำระเงินกู้ถึง 1 แสน 3 หมื่นล้านวอน
ด้าน รัฐบาลญี่ปุ่น ตัดสินใจออกมาตรการฟื้นฟูการท่องเที่ยวเป็นมูลค่า 1 ล้านล้านเยน หรือประมาณ 3 แสนล้านบาท หลังจากวิกฤตโควิด-19 สิ้นสุด ประกอบไปด้วย โครงการเงินอุดหนุนให้แก่โรงแรมและที่พักต่างๆ ครึ่งหนึ่ง สูงสุด 2 หมื่นเยน (หรือประมาณ 6 หมื่นบาท) ต่อคืน หวังดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาพัก / โครงการแจกคูปองส่วนลดให้แก่นักท่องเที่ยวเพื่อให้ซื้อสินค้าที่ระลึก รับประทานอาหาร และใช้จ่ายในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เป็นต้น
รัฐบาล “ไต้หวัน” ได้เปิดเผยมาตรการบรรเทาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศรวมมูลค่ากว่า 3 หมื่นดอลลาร์ไต้หวัน หรือประมาณ 3 หมื่นล้านบาท เพื่อช่วยเหลือพนักงานและธุรกิจในภาคการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 มากที่สุด โดยในจำนวนนี้ จะใช้เพื่อการออกสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ และเป็นเงินสนับสนุนพิเศษ
ส่วน ฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นประเทศที่พึ่งพาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมากที่สุดอันดับ 2 ในโลก รองจากไทย หรือมีรายได้จากภาคการท่องเที่ยวถึง 1 ใน 4 ของจีดีพี ประกาศจะช่วยเหลือภาคการท่องเที่ยวด้วยการเข้าหารือกับธนาคารเพื่อการพัฒนาฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นธนาคารของภาครัฐ เกี่ยวกับขยายโครงการเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ
