วันพฤหัสบดี, 28 มีนาคม 2567

คนไทย 4 ภาคยิ้มออกช่วง Work from Home ลดราคาแก๊สหุงต้ม 3 เดือน

24 มี.ค. 2020
974

ท่ามกลางวิกฤติการแพร่กระจายของ “ไวรัสโควิด-19” คนไทยได้ยิ้มออกบ้าง กระทรวงพลังงานลดราคาแก๊สหุงต้มลงกิโลกรัมละ 3 บาท ขนาดถัง 15 กิโลกรัมได้ลดราคาลงถึง 45 บาท ดีเดย์วันที่ 24 มีนาคม นี้ เผยประชาชน 4 ภาคประสานเสียงหนุน ช่วยลดภาระค่าครองชีพช่วง Work from Home ได้เป็นอย่างดี วอนให้ขยายเวลาช่วยเหลือออกไปจนพ้นวิกฤตเศรษฐกิจหลังจากที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่มีนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน เมื่อวันที่ 19 มีนาคม ที่ผ่านมา ได้เห็นชอบทบทวนการกำหนดราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) จากเดิมกำหนดราคาขายส่งหน้าโรงกลั่น 17.1795 บาท/กิโลกรัม ให้ลดเหลือ 14.3758 บาท/กิโลกรัม ทำให้ราคาขายปลีก LPG ขนาดถัง 15 กิโลกรัม ราคาลดจาก 363 บาท เหลือ 318 บาท หรือลดลง 45 บาทต่อถัง หรือลดลงกิโลกรัมละ 3 บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือน มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2563 หลังจากการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (อบน.) ในวันที่ 23 มีนาคม 2563 เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือนร้อนของประชาชนจากภาวะเศรษฐกิจ และภาวะแพร่กระจายของโรคติดเชื้อ COVID-19 นั้น

ล่าสุดประชาชน พนักงานออฟฟิส เกษตรกร และพ่อค้าแม่ค้า ต่างออกมาขานรับข่าวดีนี้กันทั้งประเทศ ในช่วงที่กำลังเดือดร้อนจากผลกระทบการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19 รวมถึงสถานการณ์ที่กรุงเทพมหานคร และจังหวัดต่างๆ ได้ออกประกาศล็อคดาวน์ปิดห้างสรรพสินค้า สถานบริการ ซึ่งรวมถึงจุดเสี่ยง 26 จุดสำคัญๆ เป็นการชั่วคราวระหว่างวันที่ 22 มี.ค.-12 เม.ย. นี้ เพื่อลดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะขยายวงกว้างไปสู่ประชาชนมากขึ้น ซึ่งการลดราคาแก๊สหุงต้มดังกล่าวได้ช่วยลดภาระค่าครองชีพประชาชนในช่วงที่ Work from Home ด้วย

คนกรุงชี้เป็นข่าวดีช่วง Work from Home โดยนางสาวดลวิภา ศาสตระรุจิ พนักงานออฟิสที่อาศัยอยู่ในย่านหทัยราษฏร์ คลองสามวา กรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า นับเป็นข่าวที่ดีมากสำหรับการลดราคาแก๊สหุงต้มลง 3 บาท/ลิตรในช่วงนี้ เพราะว่าเป็นช่วงที่ประชาชน Work for Home ตามประกาศของทางกรุงเทพมหานคร เพื่อป้องการการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นเวลา 20 วัน เมื่อออกไปไหนไม่สะดวกก็จะต้องทำกับข้าว ทำอาหารเอาไว้ทานเอง ซึ่งการลดราคาแก๊สหุงต้มลงจะช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าประชาชนตามไปด้วย

“ปกติที่บ้านใช้แก๊สหุงต้มทำกับข้าวเดือนละ 2 ถัง ถ้าลดราคาลงมาถังละ 45 บาทก็ถือว่าลดได้เยอะมาก โดยเฉพาะช่วงนี้ทำงานอยู่บ้านตลอด ทำกับข้าวทานเองก็จะช่วยประหยัดเงินได้ เช่นเดียวกับค่าไฟ ค่าเอฟทีที่กระทรวงพลังงานมีนโยบายลดราคาก็เป็นจังหวะที่ประชาชนอยู่บ้านมีการใช้ไฟฟ้าเยอะก็จะเซฟเงินในส่วนนี้ได้มากเลย”

“ภูเก็ต”ฟันธงลดราคาแก๊สเกาถูกที่คัน

ด้านนายชัดชัย แก้วทา ผู้จัดการ ร้าน Love Rawai Cafe ที่หาดราไวย์ จังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ปัจจุบันที่ภูเก็ตขายแก๊สหุงต้มถังขนาด 4 กิโลกรัมอยู่ที่ 170 บาท ถังขนาด 15 กิโลกรัม 400 บาท ถังขนาด 48 กิโลกรัม 1,280 บาท การที่กระทรวงพลังงานได้มีมาตรการลดราคาแก๊สถือว่าเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนประชาชนได้ตรงจุดทีเดียว เพราะช่วงนี้ประชาชนจะอยู่บ้านกันไม่ออกไปข้างนอกจากการประกาศล็อคดาวน์ ส่วนใหญ่จะทำกับข้าวทานเองก็จะลดภาระค่าแก๊สได้มากเลย

ส่วนผู้ประกอบการร้านอาหารที่ภูเก็ตตอนนี้ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิดเป็นอย่างมาก เพราะนักท่องเที่ยวเงียบเหงาอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน แต่ก็คาดหวังว่าการแพร่ระบาดของไวรัสครั้งนี้จะจบเร็วก่อนช่วงไฮซีซั่นจะเริ่มต้นขึ้นระหว่างเดือนต.ค.-ก.พ. ช่วงนี้ทางร้านก็ได้รับผลกระทบจากการปิดสปา และโซนสวนสนุก สระน้ำ Rawai Park ไปแล้ว ส่วนร้านอาหารก็มีไว้บริการสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาพักที่รีสอร์ทเท่านั้น

“สุราษฎร์”เชื่อประคองชาวบ้านเดินต่อได้

ขณะที่นายสุมาตร อินทรมณี เกษตรกรในพื้นที่อำเภอเมือง จ.สุราษฏร์ธานี กล่าวว่า การปรับลดราคาแก๊สหุงต้มลงในช่วงที่ทุกคนกำลังเดือดร้อนถือว่าเป็นข่าวดีเพื่อลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน เป็นการประคับประครองประชาชนให้เดินต่อไปให้ได้ในช่วงภาวะวิกฤติเศรษฐกิจแบบนี้

“เรากำลังมีข่าวดีในเรื่องการปรับลดราคาแก๊สหุงต้มลง แต่อีกด้านหนึ่งเกษตรกรในพื้นที่กำลังเดือดร้อนจากราคาปาล์มน้ำมันปรับลดลงต่อเนื่อง ตอนนี้ปาล์มดิบราคาลดลงมาอยู่ที่ 3.70-3.80 บาทต่อกิโลกรัม ผมกำลังเช็คดูอยู่ว่าเกิดอะไรขึ้นทำให้กลไกตลาดปาล์มผิดปกติ”

“ขอนแก่น”มั่นใจช่วยลดภาระชาวบ้าน

ทางด้านนางธันยธร ไกรทรัพย์ล้อม ประชาชนที่อาศัยอยู่ในตัวเมืองจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า นโยบายการลดราคาแก๊สหุงต้มเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะช่วยลดภาระให้คนทำมาหากิน โดยเฉพาะในช่วงที่การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ประชาชนมีภาระที่จะต้องจ่ายชักหน้าไม่ถึงหลัง ไม่ว่าจะเป็นค่างวดบ้าน ค่างวดรถ ค่าโทรศัพท์มือถือ พอมีมาตรการจากภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือบ้างก็สามารถแบ่งเบาได้บ้างไม่มากก็น้อย

“หนองบัวลำภู”ขอบคุณกระทรวงพลังงาน

ส่วนนางวงเดือน ทองโคตร แม่ค้าร้านก๋วยเตี๋ยว และร้านอาการตามสั่ง บ้านท่าอุทัย อ.นางกลาง จ.หนองบัวลำภู กล่าวว่า ตอนนี้ราคาแก๊สหุงต้มขนาดถัง 15 กิโลกรัมอยู่ที่ 420 บาท เมื่อมีนโยบายปรับลดราคาลงลิตรละ 3 บาท ก็เป็นข่าวดีและขอบคุณกระทรวงพลังงานที่ดูแลความเดือดร้อนของประชาชนในช่วงที่ประสบภาวะวิกฤติเศรษฐกิจแบบนี้ แต่ยังไม่แน่ใจว่าเมื่อถึงเวลานั้นราคาที่ขายจริงอยู่ที่นี่จะลดลงกี่บาท เพราะร้านขายส่งก็จะมีการบวกค่าขนส่งเข้าไปด้วย

“การลดราคาแก๊สหุงต้มลงผู้ที่ได้รับอานิสงส์จริงๆ น่าจะเป็นชาวบ้านได้ประหยัดเงินแน่ๆ แต่สำหรับร้านขายอาหารก็คงปรับราคาลงไม่ไหว เพราะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ 3 เดือน เดี๋ยวปรับขึ้นปรับลงลูกค้าก็จะงง อีกอย่างวัตถุดิบอื่นๆ ยังมีราคาสูงอยู่ แต่เราก็จะใช้วิธีเพิ่มปริมาณอาหารให้ลูกค้ามากขึ้น และมีบริการส่งถึงที่ช่วงที่คนกลัวไวรัสโควิด-19 ไม่อยากออกจากบ้านแทน”

“น่าน”หวังลดค่าแก๊สมากกว่า 3 เดือน

ขึ้นเหนือไปที่จังหวัดน่าน ถิ่นที่มีอากาศบริสุทธิ์สดชื่นที่นักท่องเที่ยวอยากไปสัมผัสกัน โดยนางมณัชยา พิมสาร เจ้าของร้านกล้วยฉาบแบรนด์ “ดิบดี” ที่ขึ้นชื่อในย่านนี้ อยู่ที่หมู่ 9 ต.กลางเวียง อ.เวียงสา จ.น่าน กล่าวว่า ที่นี่แก๊สหุงต้มขนาด 15 กิโลกรัม ถ้าไปรับเองราคาจะอยู่ที่ 381 บาท แต่ถ้าให้ร้านมาส่งราคาจะตกอยู่ที่ 425 บาท การปรับลดราคาแก๊สหุงต้มลง 45 บาทสำหรับถังขนาด 15 กิโลกรัม ถือว่าเป็นเงินเยอะพอสมควรจึงเป็นข่าวดีสำหรับประชาชนทุกคน โดยเฉพาะในช่วงที่ทุกคนจะอยู่บ้านกันไม่ออกไปไหน เพราะกลัวไวรัสโควิด-19 ก็จะช่วยภาระค่าแก๊สเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะขยายเวลาการลดค่าแก๊สออกไปมากกว่า 3 เดือน เพราะผลกระทบวิกฤติเศรษฐกิจรุนแรงคาดว่าจะใช้เวลาอีกนานในการฟื้นฟูกลับคืนมา

“เรามองว่าก็เป็นเรื่องดีที่ต้นทุนด้านเชื้อเพลิงของร้านลดลง แต่วัตถุดิบอย่างอื่น เช่น น้ำมันปาล์มยังมีราคาแพงอยู่มาก ก็ถือว่าเป็นการเฉลี่ยๆ ต้นทุนกันไปทำให้ร้านอยู่ต่อไปได้”

“เมืองปุทม”ย้ำเป็นข่าวดีกลางวิกฤตไวรัส

ปิดท้ายกันที่จังหวัดปทุมธานี นางสาวปวินนา ไชยมงค์ ผู้จัดการร้านก๋วยเตี๋ยวเรือรังสิตชื่อดัง “สวัสดี” ที่คลอง 2 รังสิต กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องดีๆ ที่ประชาชนทุกคนอยากได้ยินในช่วงสถานการณ์แบบนี้ การลดราคาแก๊สให้ประชาชนเป็นเวลา 3 เดือนอยู่ในช่วงที่ Work from Home พอดี ซึ่งจะช่วยลดภาระให้ทุกคนที่กำลังเดือดร้อน สามารถช่วยประหยัดค่าแก๊สจากการทำกับข้าวทานที่บ้านได้ เพราะต่อไปนี้จะบ้านนานมากขึ้น

สำหรับร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ “สวัสดี” ก็เป็นข่าวดีเช่นกัน เพราะมีการใช้แก๊สหุงต้มถังขนาด 48 กิโลกรัม ราคาอยู่ 1,105 บาท แต่ละเดือนใช้อยู่จำนวน 18 ถัง เพราะต้องใช้อุ่นหม้อก๋วยเตี๋ยว และย่างสเต๊ก ตลอดเวลา ทำให้ลดต้นทุนได้พอสมควร แต่ก็ยังแบกรับภาระวัตถุดิบอื่นๆ ที่ยังมีราคาสูงอยู่ และช่วงนี้ลูกค้าก็จะลดลงจากภาวะเศรษฐกิจ และผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ด้วย