เมื่อเอ่ยชื่อเมือง New Orleans อาจฟังดูธรรมดา แต่ถ้าเอ่ยถึงดนตรีแจ๊สแล้วละก้อ ผู้ที่มีดนตรีในหัวใจจะต้องร้อง อ๋อ เพราะ New Orleans เป็นต้นกำเหนิดดนตรีแจ๊สที่ทั่วโลกรู้จัก เมืองที่หลากหลายวัฒนธรรมที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวริมฝั่งแม่น้ำ Mississippi เขตมลรัฐ Louisiana ประเทศสหรัฐ รวมถึงเทศกาล Mardi Gras และปาร์ตี้บนถนน ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง จากความสวยงามริมฝั่งแม่น้ำ ใกล้อ่าวเม็กซิโกที่เป็นรัฐทางตอนใต้เช่นเดียวกับรัฐ Mississippi , Alabama และรัฐ Florida ชื่อเมืองมาจาก ผู้สำเร็จราชการแทนพระเจ้า หลุยส์ที่ 5 แห่งฝรั่งเศสคือ Duke of Orleans ในปี คศ.1715-1723 ในคราวเป็นเมืองขึ้นจึงเป็นดินแดนที่วัฒนธรรมยุโรปเข้มแข็งเหมือนเป็นฝรั่งเศสใหม่ ณ เวลานั้น และถูกขายให้กับสหรัฐในปี 1803 จากนั้นมีชาวต่างชาติมากมายเข้ามาในนิว ออร์ลีน รวมทั้งชาวสีผิวดินแดนนี้จึงเป็นจุดหลอมละลาย วัฒนธรรม ฝรั่งเศส อัฟริกัน และ อเมริกันเข้าด้วยกันอย่างลงตัว
จริงๆแล้วทริป New Orleans คือผลพลอยได้เพราะไม่ได้อยู่ในแผนแต่แรก คือเราโรดทริป จาก Houston Texas ผ่านรัฐหลุยส์เซียน่า มิซซิสซิปปี้ อลาบามา เพื่อปลายทางที่ Jacksonville Florida ขากลับตัดสินใจเปลี่ยนแผนแวะ New Orleans เพราะเป็นทางผ่าน บ่ายคล้อยของวันเกือบ 4 โมงเย็นเราถึงที่หมาย เป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับสีสันปาร์ตี้บนถนนที่ขึ้นชื่อ นั่นคือ Bourbon Street เสียงดนตรี เสียงอึกทึกครึกครื้นหลังสี่โมงเย็นบนถนนสายนี้เป็นเรื่องปกติทุกวันของชาว New Orleans ประหนึ่งงานเทศกาล บาร์เปิด ดนตรี โดยเฉพาะดนตรีแจ๊ส คนเดินถนน ร้านอาหาร ร้านค้า ดนตรีเปิดหมวก โชว์แปลกๆที่สะดุดตาเพื่อเงิน สารพัดกิจกรรมที่เน้นความสนุกและเชิญชวนนักท่องเที่ยว การดื่มกินไม่คำนึงถึงรสชาติแต่จะเน้นบรรยากาศมากกว่า ชาวสีผิวที่นี่รักความบันเทิง สนุกสนาน บนร้านอาหารชั้นสอง หรือบ้านเรือนร้านค้าบนถนนสายนี้จะโยนสร้อยลูกปัด หรือเหรียญสีสันต่างๆให้นักท่องเที่ยวได้สนุก เสมือนเทศกาล มาร์ดีกราส์
เทศกาล Mardi Gras เป็นประเพณีดั้งเดิมตั้งแต่สมัยอาณาจักรโรมัน ที่นิวออร์ลีนส์ เริ่มมีเทศกาลนี้ในต้นปีคศ. 1870 เรียก Mardi Gras Beads & Throws ส่วน Mardi Gras Balls เป็นประเพณีทางการและส่วนตัวอย่างสถาบันกษัตริย์ ชนชั้นเจ้านายจัดขึ้น มีการออกการ์ดเชิญ ใครได้รับเชิญถือว่าโชคดีได้ร่วมงานเลี้ยงค่ำคืน และเต้นรำกับตัวแทนสถาบัน เจ้านาย หรือเจ้าภาพ ในปี 1949 รัฐบาลจัดให้มีเทศกาลนี้เพื่อความประทับใจให้นักท่องเที่ยว ที่ถนน Bourbon Street เทศกาล Mardi Gras Throws คือการโยนสร้อยลูกปัด และเหรียญจึงเป็นหนึ่งกิจกรรมในทุกๆวันเพื่อความสนุกสนานให้กับนักท่องเที่ยว
New Orleans ยังเต็มไปด้วยสีสันน่าสนใจอีกมาก อย่างสะพานข้ามแม่น้ำยาวที่สุดในโลก ก่อนเข้าตัวเมือง ยาวถึง 38.85 กิโลเมตร เที่ยว Oak Alley Plantation พิพิธภัณฑ์ และต้นโอ๊คอายุกว่าร้อยปี ร่มรื่น เคยเป็นฉากหนังฮอลลีวูดหลายเรื่อง โดยเฉพาะ Interview with Vampire พิพิธภัณฑ์สงครามโลกครั้งที่สอง มหาวิหารเซนต์หลุยส์ ถนนเฟรนแมน Jackson Square Royal Street Garden District ซิตี้พาร์ค เฟรนซ์ควอเตอร์ ที่สำคัญคือ New Orleans ขึ้นชื่อด้านรสชาติอาหารพื้นเมืองที่เป็นเอกลักษณ์ ปรุงด้วยเครื่องเทศเข้มข้น ด้วยวัตถุดิบอาหารทะเลสดๆ ณ วันนั้นจำได้ว่าโดนหลอกให้กินเนื้อจระเข้ทอดกระเทียม เป็นสายพันธุ์ตัวไม่ใหญ่มาก ปากยาวๆ ในแม่น้ำ มิสซิสซิปปี้ที่เรียก Alligator อร่อยดีค่ะ
New Orleans เป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีสีสันสนุกสนาน ใช้ได้เลยค่ะ ไม่เสียเที่ยวที่เปลี่ยนแผนแวะ แม้ทัวร์ไทยไม่ค่อยมีโปรแกรมลงที่นี่มากนักแต่การันตีค่ะไม่ผิดหวังแน่นอน ลองดูนะคะ โลกไม่กว้างอย่างที่คิด กำไรชีวิตคือการเดินทาง ขอให้มีความสุข สนุกกับการท่องเที่ยว เจอกันทริปหน้าจะพาล่องเรือสำราญผ่านอ่าวเม็กซิโก ไปสัมผัสดินแดนชนเผ่า มายา ที่ประเทศเม็กซิโกกัน อย่าลืมนะคะ สวัสดีค่ะ
