สวัสดีค่ะ ทริปนี้ยังเป็นไฮซีซั่น ฤดูกาลท่องเที่ยวในทวีปอเมริกาเหนือ วันหยุดสดใสพาขับรถข้ามแม่น้ำ St. Clair เส้นแบ่งเขตแดนจังหวัด ออนทาริโอ ประเทศแคนาดา กับรัฐ มิชิแกน สหรัฐ ข้ามฟากจากฝั่งแคนาดาไปรัฐมิชิแกนที่เมืองเล็กๆ มนเสน่ห์ที่หลายคนหลงใหลในวัฒนธรรมแบบ Bavarian นั่นคือ วิถีชีวิตแบบชาวเยอรมันทางตอนใต้ ที่ได้อพยพมาตั้งถิ่นฐานในทวีปอเมริกาเหนือ ณ วันนี้ยังคงไว้กลิ่นไอดั้งเดิม ที่นี่ เมือง Frankenmuth ปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวในรัฐมิชิแกน
Frankenmuth ชื่อนี้มาจากสองคำคือ Franken ที่มาจากคำว่า Franconia เป็นชื่อจังหวัดในรัฐ Bavaria ประเทศเยอรมันนี บ้านเดิมที่พวกเขาย้ายจากมา และ Mut เป็นภาษาเยอรมัน หมายถึงความกล้าหาญ รวมเป็น Frankenmuth มีความหมายในภาษาอังกฤษคือ “courage of the Franconians” หมายถึงความกล้าหาญของชาว แฟรนโคเนี่ยน ผู้คนเรียกชื่อเล่นเมืองนี้ว่า little Bavarian หรือ Muth, the Muth ประชากรประมาณ ห้าพันคน ความน่าสนใจของเมืองนี้อีกอย่างคือ เป็นที่ตั้งร้านจำหน่าย สิ่งของตกแต่ง อุปกรณ์ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องและใช้ในเทศกาลคริสต์มาสที่ใหญ่ที่สุดในโลก นั่นคือ Bronner’s Christmas Wonderland ในความเป็นมาของวัฒนธรรม บาวาเรี่ยนที่นี่เริ่มขึ้นในปี คศ.1845 โดย Lutheran จากจังหวัด Franconia ประเทศเยอรมันนีและกลุ่มเพื่อนล่องเรือจากเมือง นิวยอร์คผ่านเมือง ดีทรอยท์ พอถึงดินแดนนี้จึงตั้งหลักฐานจนกลายเป็นหมู่บ้าน ต่อมาในปี 1959 ก็มีฐานะเป็นเมือง ผู้คนที่นี่ส่วนมากยังมีวิถีชีวิตแบบเดิมที่สืบทอดมาจากคนรุ่นแรกที่เข้ามาตั้งรกราก การออกแบบสิ่งปลูกสร้าง วัฒนธรรมการพูด อาหาร ศิลปะ เครื่องแต่งการ การตกแต่งบ้านเรือน การสันทนาการ ทุกอย่างเป็นแบบ บาวาเรี่ยน อย่างการเฉลิมฉลอง Oktoberfest ไม่ว่าจะเป็น อาหาร เครื่องดื่ม ดนตรี และเบียร์ เหมือนในเมือง Munich เยอรมันทั้งสิ้น กิจกรรมหน้าร้อนก็เช่นกันแม้ถูกจัดขึ้นเพื่อนักท่องเที่ยวแต่เหตุผลหลักคือนั่นเป็นวิถีดั้งเดิมของชาวแฟรงเคนมูธซ์ ไม่แปลกว่าทำไมที่นี่ จึงเป็นเมืองที่สวยงามและสุดแสนโรแมนติคแบบ Bavarian Style
การเที่ยวที่ แฟรงเคนมูธซ์ ทริปนี้เป็น วันเดย์ทริป อย่างที่จั่วหัวบอกไว้นะคะว่าข้ามฟากมาเที่ยวในวันหยุด แต่สุดแสนจะคุ้มค่า ได้คำตอบเลยว่าทำไมผู้คนชอบมา เป็นเมืองน่ารัก น่าเที่ยว โรแมนติค โดยเฉพาะหน้าร้อนแบบนี้ อากาศสบาย ดอกไม้สวย โดยส่วนตัวไม่ว่าจะไปไหนจะชอบดูสิ่งปลูกสร้าง สถาปัตยกรรมที่แปลกๆ แต่ที่นี่ในตัวเมืองไม่กว้างนัก มีการออกแบบโซนเดินเท้า ร้านค้าให้ความสะดวกกับนักท่องเที่ยวดีทีเดียว ส่วนมากสิ่งปลูกสร้างก็เป็นศิลปะแบบ บาวาเรี่ยน อาคารบ้านเรือน โบสถ์ สะพาน นึกในใจ เหมือนเดินอยู่ในเมือง มิวนิค เยอรมันเลย โซนที่มีกิจกรรมรองรับนักเดินทางจริงๆ รถจะไม่มาก ประมาณที่เดินเท้า ทุกที่ริมฟุธบาธดอกไม้สวยหลากสี และตามร้านค้า หน้าร้านจะมีสวนดอกไม้เต็มไปหมด อาจเป็นเพราะฤดูกาลด้วย บางโรงแรมมีลานเบียร์กลางแจ้ง เล่นดนตรีกันสดๆในช่วงกลางวัน จิบเบียร์ฟังเสียง แอคโคเดียน ถ้าขี้เกียจเดิน หรือไม่ไหว มีทั้ง บัสทัวร์ รถม้า ล่องเรือชมวิวในแม่น้ำ Cass ที่ผ่านตัวเมือง บริเวณท่าขึ้นลงเรือมีสะพานเดินชิลๆจากใจกลางเมืองไปอีกฝั่งที่เป็นแหล่งช้อปคือ River Place Shops หรือถ้าชอบประวัติศาสตร์ มีทั้ง Michigan Heroes Museum และ Frankenmuth Historical Museum ส่วนที่โบสถ์ St. Lutheran Church มีสถาปัตยกรรมสวยงามแบบ บาวาเรี่ยน หากมีเวลาพอก็แวะไปชิมไวน์ที่ St. Julians Winery รสชาติดีทีเดียวค่ะ แน่นอนเดินเหนื่อยก็มองหาที่เติมพลังงาน ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารแบบดั้งเดิมโดยเฉพาะไก่แบบ บาวาเรี่ยน รสชาติ การตกแต่งร้าน แม้ชุดพนักงาน ทุกอย่าง ออริจินัล เรายืนรอโต๊ะที่ Zehnder’s Famous Frankenmuth Chicken dinners ไม่นานก็อร่อยลิ้น อิ่มกับไก่ที่ปรุงแบบบาวาเรี่ยน ถ้าไม่ได้กินไก่ร้านนี้ถือว่ามาไม่ถึงแฟรงเคนมูธซ์กันเลย
เป็นทริปที่คุ้มค่าวันหยุดจริงๆค่ะ Frankenmuth รัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐ ความสุข ความสวยงามของฤดูกาล บรรยากาศโรแมนติคในวัฒนธรรมแบบ Bavarian อย่าลืมว่าโลกไม่กว้างอย่างที่คิด กำไลชีวิตคือการเดินทาง พบกันอีกทริปหน้านะคะ สวัสดีค่ะ
