เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 17 ม.ค.2563 ที่โรงแรมอวานีขอนแก่น แอนด์คอนเวนชั่น เช็นเตอร์ นายวรทัศน์ ธุลีจันทร์ รอง ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธานเปิดการประชุม การสร้างความเข้าใจระบบการคัดกรองนักเรียนทุนเสมอภาค ภายใต้ “โครงการจัดสรเงินอุดหนุนแบบมีเงื่อนไข ในสถานศึกษาสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ครั้งที่ 1โดยมีผู้อำนวยการและคณาจารย์จากโรงเรียนสังกัด อปท.จากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าร่วมประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง
นายวรทัศน์ ธุลีจันทร์ รอง ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า ปัจจุบันข้อมูลบัญชีรายจ่ายการศึกษาแห่งชาติพบว่า นักเรียนที่มาจากครอบครัวยากจน เฉลี่ยรายได้ไม่ถึง 3,000 บาทต่อเดือน หรือไม่ถึง 36,000 บาท ต่อปี ซึ่งครอบครัวของพวกเขาต้องแบกรับรายจ่ายด้านการศึกษา มากถึง 22% ของรายได้ ทำให้เด็กกลุ่มนี้มีแนวโน้มที่จะออกจากโรงเรียนกลางคัน เฉลี่ยปีละกว่า 670,000 คน แม้รัฐบาลจะจัดให้มีการจ่ายเงินอุดหนุนปัจจัยพื้นฐานสำหรับนักเรียนยากจนมาเป็นเวลากว่า 10ปีแต่ก็ยังมีข้อจำกัดที่ไม่ตอบโจทย์บางอย่าง ที่นอกเหนือจากเงื่อนไขการศึกษาฟรีของรัฐ ทั้งในเรื่องของ ค่าเดินทาง และค่าเสียโอกาสทางอาชีพ และที่สำคัญก็คือ ในความเป็นจริงแล้วนักเรียนแต่ละคนมีปัญหาและความต้องการที่แตกต่างกัน
“การประชุมครั้งนี้นับว่าเป็นจุดเริ่มตันสำคัญในการสร้างความเสมอภาคทางการศึกษาให้แก่นักเรียนยากจนและด้อยโอกาสในสถานศึกษาสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งจะมีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม โดยมุ่งเน้นการลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการด้านการศึกษาและด้านสารณสุข โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มผู้ด้อยโอกาส”
รอง ผวจ.ขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า เมื่อเด็กมีความเสมอภาคทางการศึกษา ก็จะมีโอกาสมีคุณภาพจะสามารถพัฒนาตนเอง พัฒนาครอบครัวและเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ที่มีคุณภาพในอนาคตได้ เมื่อเรามีคนที่มีคุณภาพเราก็จะสามารถพัฒนาจังหวัด เป็นไปตามเป้าหมายเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ แต่ถ้าเราปล่อยให้เด็กขาดโอกาสทางการศึกษา มันก็จะไม่สามารถพัฒนาตนเองได้ในส่วนนี้ นี่เป็นส่วนเริ่มต้นที่เราเริ่มทำขึ้นมา และกองทุนก็เป็นกองทุนที่สอดคล้องกับ ยุทธศาสตร์แห่งชาติ 20 ปี เป็นโครงการที่เกิดขึ้นตามรัฐธรรมนูญ
“สำหรับจังหวัดขอนแก่นจะได้ใช้ประโยชน์เบื้องต้นจากฐานข้อมูลการคัดกรองนักเรียนยากจนของ กสศ. โดยนำข้อมูลนักเรียนยากจนที่มีความต้องการเพิ่มเติมด้านต่างๆ มาช่วยเหลือทั้งในเรื่องของการ การฝึกทักษะอาชีพ การให้ทุนการศึกษาเพิ่มเติม และการคัดกรองนี้จะทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนำ สามารถข้อมูลไปใช้จัดทำแผนพัฒนาจังหวัดทางด้านการศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นระบบการคัดกรองนักเรียนยากจนนี้ ไม่ใช่แค่การจัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่นักเรียนยากจนเท่านั้น แต่จะเป็นระบบฐานข้อมูลเพื่อการชี้เป้าบูรณาการความช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงตัว”
ขณะที่ นางสาวจันทร์สุดา งามชัด ครูโรงเรียนหนองเขียด กล่าวว่า โรงเรียนได้เข้าร่วมโครงการจัดสรรเงินอุดหนุนแบบมีเงื่อนไข ในสถานศึกษาสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งยอมรับว่าเป็นโครงการที่ดีเพราะจะทำให้เด็กด้อยโอกาสในพื้นที่ ห่างไกล ได้มีโอกาสเรียนหนังสือ มีความรู้ มีอนาคตที่ดี เพราะที่ผ่านมา ในพ้นที่ห่างไกลนั้น จากการลงพื้นที่สำรวจคัดกรองบางครั้งก็ลำบาก เพราะการเดินทางเข้าถึงครอบครัวเด็กนั้นไม่สะดวก แต่ครูก็ต้องทำ เพราะเด็กบางพ่อแม่ไปรับจ้าง ทิ้งให้อยู่กับ ปู่ย่าตายาย ที่แก่ชรา การดูแลบัตรหลานก็ไม่ค่อยเต็มที่ ฉะนั้นการมีโครงการจัดสรรเงินอุดหนุนแบบมีเงื่อนไข เป็นเรื่องที่ดี เมื่อเด็กมีการศึกษา มีอนาคตดี สังคมก็จะดีตามมาด้วย