วันอังคาร, 1 กรกฎาคม 2568

เที่ยวไกลในต่างแดน…ตอน : มนต์เสน่ห์บนเส้นทาง Trans Canada Highway-โดย DJ. ณิชา

สวัสดีค่ะ ทริปนี้จะเป็นอีกครั้งพาไปสัมผัสที่ท่องเที่ยวอันดับหนึ่งทางตะวันตกของแคนาดา นั่นคือเส้นทางไฮเวย์แปซิฟิค จากตะวันตกสุดไปยังตะวันออกสุดแคนาดา หรือ Trans Canada Highway ช่วงตัดผ่านแนวเทือกเขาร็อกกี้ ทำให้หลากหลายชุมชนที่นี่กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว มนต์เสน่ห์ดึงดูดนักเดินทางทั่วโลกให้มาเยือน โดยเฉพาะหน้าร้อนของทวีปอเมริกาเหนือ อย่างประเทศแคนาดา
Trans Canada Highway เริ่มต้นจากเมือง Victoria เมืองหลวงจังหวัด British Colombia ทางตะวันตกถึงเมือง St. John’s จังหวัด Newfoundland ตะวันออกสุดของแคนาดา เป็นไฮเวย์ที่ยาวที่สุดในโลกคือ 7,821 กิโลเมตร แต่ช่วงที่น่าสนใจคือช่วงเส้นทางผ่านแนวเทือกเขาร็อกกี้ จังหวัด Alberta อุดมด้วยทรัพยากรธรรมชาติ ความสวยงาม วิวทิวทัศน์ตามแนวเทือกเขา ทะเลสาบ จากข้อได้เปรียบนี้ ชุมชนเมือง หมู่บ้าน รวมถึงอุทยานแห่งชาติต่างๆในพื้นที่ จึงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ในตัวเมืองที่เป็นชุมชนเต็มไปด้วยโรงแรม รีสอร์ท ร้านอาหาร ร้านค้า บริษัทนำเที่ยวที่ดูแลนักเดินทาง กิจกรรมมากมาย โดยเฉพาะแอดเวนเจอร์ ใครที่ไม่กลัวความสูง มีเครื่องบินเล็กนำเที่ยวชมวิวภูเขา ธารน้ำแข็ง ในหน้าหนาว ซึ่งเป็นที่นิยม ข้อดีคือเที่ยวได้ทุกฤดูกาล ที่ขึ้นชื่อมากคือ อุทยานแห่งชาติ แบมฟ์ ( Banff National Park ) , Jasper National Park, Golden และแม้แต่โรงแรมเก่าแก่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่าง Fair Mont ตั้งอยู่บนเนินเขามีทั้งที่ แบมฟ์และแจสเปอร์ น้ำตก ทะเลสาบที่ขึ้นชื่ออีกหลายที่ รวมถึงในตัวเมือง แบมฟ์ และ แจสเปอร์ แน่นอนทุกๆที่จะมีแคมป์กราวน์ สำหรับคนรักแคมป์ปิ้ง แต่ละที่มีชื่อเสียงด้านธรรมชาติที่สวยงามแตกต่าง ซึ่งทั้งหมดเป็นรอยต่อผืนเดียวกันตามแนวเทือกเขาร็อกกี้

อย่างที่บอกว่าเที่ยวได้ทั้งหน้าร้อนและหนาว แต่คนจะมากหน่อยในหน้าร้อนเพราะอากาศสบายๆ บางข่วงหนาวด้วยซ้ำสำหรับเราเพราะเป็นแนวเขาอากาศจะเย็นๆอยู่แล้ว จุดเด่นและมนต์เสน่ห์เทือกเขาร็อกกี้คือ หน้าร้อนบนยอดเขายังปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน แต่ด้านล่างต้นไม้จะผลิใบเขียวขจีตัดกับทะเลสาบสีน้ำเงิน ถนนคดเคี้ยวตามแนวเขา แค่ขับรถชมวิวทิวทัศน์ก็สุดคุ้ม อะเมซซิ่งค่ะ แต่ถ้าเป็นหน้าหนาวก็จะแตกต่างในกิจกรรม ทะเลหิมะ ป่าหิมะ นี่เป็นคำที่ดิฉันเรียกเองเพราะ ตามเส้นทางขาวโพลนไปหมด ที่สำคัญเที่ยวได้ทั้งแบบวันเดย์ทริป หรือพักค้างคืน จะเป็นโรงแรม หรือแคมป์กราวน์ในหน้าร้อนแล้วแต่ชอบ ซึ่งควรมีเวลา 2-3 วันเป็นอย่างน้อย โดยส่วนตัวที่นี่คือที่โปรด ในคราวที่ใช้ชีวิตอยู่อัลเบอร์ต้า มีโอกาสไปสัมผัสทุกฤดูกาลเห็นความสวยงามแตกต่าง วันเดย์ทริป 8 ครั้งที่บ่อยขนาดนี้ด้วยพาญาติๆเที่ยว อีกสองครั้งค้างคืนที่ แบมฟ์ และ แจสเปอร์ สำหรับนักเดินทางไม่ผิดหวังค่ะ กลางวันแอดเวนเจอร์กับธรรมชาติ ช่วงเย็นๆ ค่ำคืน สีสันแปลกตา ผู้คน ร้านค้า ลิ้มรสอาหารท้องถิ่น เป็นรสชาติของนักเดินทางดีเลยหละค่ะ หรือถ้าชอบลุยๆหน้าหนาวนี่ก็สุดยอดค่ะไปโกลเด้นเลยเมืองเล็กๆทางไป แวนคูเวอร์ ขับรถจากแบมฟ์ชั่วโมงเศษๆ มีบริษัทท่องเที่ยวท้องถิ่นดูแล ทุกกิจกรรมภายนอก สกี สุนัขลากล้อเลื่อน สโนโมบิล ( Snow Mobile) ดิฉันเรียก มอเตอร์ไซด์หิมะ อิอิ ที่นี่เป็นความประทับใจไม่เคยลืมครั้งแรกที่เล่น สโนโมบิล กรุ๊ปเราไปกับเด็กวัยรุ่นชาวสหรัฐ ประมาณ สิบคน มีพนักงานบริษัทนำเที่ยวดูแลสอนการขับขี่ในเส้นทางที่จะไป และเป็นผู้นำ เส้นทางบนภูเขาไม่สูงมากนัก อากาศอยู่ที่ ลบ 5 องศา ตลอดเส้นทางมีหิมะลงหน่อยๆ แต่รอบตัวขาวโพลน หิมะเก่าปกคลุมต้นไม้เป็นรูปทรงสวยงามแปลกตา บรรยากาศสลัวๆคล้ายเดือนหงายพระจันทร์เต็มดวงยังไงยังงั้น สวรรค์บนดิน และอีกครั้งหนึ่งไปสัมผัสโรงแรม Fair Mont ที่ริมทะเลสาบ Lake Luis ที่ขึ้นชื่อ ต้องบอกว่าเหมือนหลุดเข้าไปในเทพนิยายตะวันตก ศิลปการออกแบบ ความเก่าแก่ ใหญ่โตแต่ก็คุ้มทีเดียว
นักท่องเที่ยวที่ได้สัมผัสเส้นทางนี้แล้ว มั่นใจว่าทุกคนคงจะรู้สึกได้เหมือนกันนั่นคือ คำตอบที่ว่าไม่แปลกใจเลยที่ Trans Canada Highway ช่วงผ่านแนวเทือกเขาร็อกกี้ อัลเบอร์ต้า คือมนต์เสน่ห์ที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อระดับโลกอีกแห่งหนึ่ง ของประเทศแคนาดา ดินแดนค่อนขั้วโลกเหนือที่ท้าทายนักเดินทางให้ไปสัมผัส อย่าลืมนะคะโลกไม่กว้างอย่างที่คิด กำไลชีวิตคือการเดินทาง พบกันใหม่ฉบับหน้า สวัสดีค่ะ