วันพฤหัสบดี, 28 พฤศจิกายน 2567

(มีคลิป)นายกรัฐมนตรีแถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจฯ ยืนยัน “เปิดรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ โดยไม่ต้องกักตัว”เริ่ม 1 พ.ย. เป็นต้นไป

11 ต.ค. 2021
1825

นายกรัฐมนตรีแถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจฯ ยืนยัน “เปิดรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ โดยไม่ต้องกักตัว” สำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว และเดินทางทางอากาศจากประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ เริ่ม 1 พฤศจิกายน เป็นต้นไปวันนี้ (11 ตุลาคม 2564) เวลา 20.30 น. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ยืนยัน “เปิดรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ โดยไม่ต้องกักตัว” สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงหนึ่งปีครึ่งที่ผ่านมา ถือเป็นความท้าทายครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ไม่มีประเทศไหนในโลกที่ไม่ได้รับผลกระทบ ที่สร้างความหนักใจที่สุด 2 ทางเลือก คือ การตัดสินใจเลือกระหว่างปกป้องชีวิตคน กับปกป้องการทำมาหากิน เมื่อเลือกที่จะปกป้องชีวิตประชาชน ทำให้พบกับความลำบากในการทำมาหาเลี้ยงชีวิต หากเลือกที่จะปกป้องการทำมาหากินตามปกติของประชาชน ต้องเจอกับการสูญเสียชีวิต ที่อาจจะเป็นคนในครอบครัว เพื่อน เพื่อนบ้าน หรือแม้กระทั่งคนที่เป็นเสาหลักที่หาเลี้ยงครอบครัว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้ปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญทางด้านสาธารณสุขที่ยอดเยี่ยม ที่มีอยู่มากมาย ลงมือทำอย่างรวดเร็ว ด้วยการใช้มาตรการที่เข้มงวดต่าง ๆ ด้วยความร่วมมือกันของทุกภาคส่วนในสังคม วันนี้ ไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลกในการปกป้องรักษาชีวิตของประชาชน ขณะเดียวกัน ความเสี่ยงในเรื่องการสูญเสียชีวิตที่จะเกิดจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในไทยก็กำลังค่อย ๆ ลดลง  แต่ยังต้องระวัง รักษาความสามารถของระบบสาธารณสุข โรงพยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ เตรียมพร้อมยารักษาและวัคซีนป้องกันมากขึ้นเรื่อย ๆ  เรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตอยู่เหมือนกับโรคภัยอื่น ๆ ที่กลายเป็นโรคประจำถิ่น

นายกรัฐมนตรียังเผยว่า  ในช่วงหนึ่งถึงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ประเทศที่เป็นนักท่องเที่ยวสำคัญของประเทศไทย ต่างค่อย ๆ เริ่มอนุญาตให้ประชาชนของเขาเดินทางได้ โดยไม่มีเงื่อนไขที่ยุ่งยากมากมาย อย่างเช่น อังกฤษ ตอนนี้เพิ่งจะอนุญาตให้ประชาชนเดินทางมาประเทศไทยได้โดยไม่ยุ่งยาก หรืออย่าง สิงคโปร์ และออสเตรเลีย ก็เพิ่งเริ่มผ่อนคลายเงื่อนไข ในการเดินทางไปต่างประเทศของประชาชน  ความคืบหน้าที่เกิดขึ้นแบบนี้ ยังต้องระมัดระวัง แต่ก็ต้องเดินหน้าให้ไว เพื่อไม่ให้เสียโอกาส ดึงนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลเดินทางท่องเที่ยววันหยุดสิ้นปี ใน 3 เดือนข้างหน้านี้ เพื่อสนับสนุนส่งเสริมการทำมาหากินของประชาชนนับล้าน ๆ คน ในภาคการท่องเที่ยว การเดินทาง และภาคธุรกิจพักผ่อนหย่อนใจ และบันเทิง รวมถึงภาคธุรกิจอื่น อีกมากมายที่เกี่ยวข้อง



นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ได้สั่งการให้ ศบค. และกระทรวงสาธารณสุข ร่วมพิจารณา โดยตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน เป็นต้นไป ประเทศไทยจะเริ่มเปิดรับการเดินทางเข้าประเทศไทย โดยไม่ต้องกักตัว สำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว และเดินทางเข้าประเทศไทยโดยทางอากาศจากประเทศที่กำหนดว่า เป็นประเทศความเสี่ยงต่ำ เมื่อเดินทางเข้าประเทศไทย ทุกคนต้องแสดงตัวว่าปลอดเชื้อโควิด-19 โดยต้องมีหลักฐานผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR ซึ่งทำการตรวจก่อนเดินทางออกจากประเทศต้นทาง และจะมีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 อีกครั้ง เมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทย หลังจากนั้น จึงสามารถเดินทางไปพื้นที่ต่าง ๆ ได้อย่างอิสระ เช่นเดียวกับที่คนไทยปกติทั่วไปสามารถทำได้

ทั้งนี้ ได้เริ่มต้นกำหนดรายชื่อประเทศความเสี่ยงต่ำ ที่จะสามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้ โดยไม่ต้องกักตัว ไว้ที่อย่างน้อย 10 ประเทศ ซึ่งจะรวมประเทศ อย่างเช่น อังกฤษ สิงคโปร์ เยอรมนี จีน และอเมริกา โดยตั้งเป้าจะเพิ่มจำนวนประเทศให้มากขึ้นอีก ภายในวันที่ 1 ธันวาคม และหลังจากนั้น ภายในวันที่ 1 มกราคม เราจะเพิ่มจำนวนประเทศให้มากขึ้น อย่างกว้างขวาง อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มาจากประเทศที่ไม่ได้อยู่ในรายชื่อประเทศความเสี่ยงต่ำ เรายังให้การต้อนรับเข้าประเทศไทย แต่จำเป็นต้องมีการกักตัว ตามเงื่อนไขและข้อกำหนด

ภายในวันที่ 1 ธันวาคม จะพิจารณาอนุญาตให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารได้ และจะพิจารณาอนุญาตให้สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ และสถานบันเทิง เปิดให้บริการได้ ภายใต้มาตรการด้านสาธารณสุขที่เหมาะสม เพื่อสนับสนุนและกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว การพักผ่อนและบันเทิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่กำลังจะเข้าสู่เทศกาลเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสปีใหม่

นายกรัฐมนตรียังกล่าวว่า เมื่อเริ่มต้นการผ่อนคลายต่าง ๆ จะทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น เป็นการชั่วคราว ซึ่งต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และประเมินดูว่าจะรับมือกับสถานการณ์นั้นอย่างไร โดยต้องไม่ปล่อยให้เสียโอกาส ในช่วงเวลาทองของการทำมาหากินไปอีก เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน อย่างไรก็ตาม ใน 2-3 เดือน หรือ 4 เดือนข้างหน้า อาจมีสายพันธุ์ใหม่ที่อันตรายมาก ๆ เกิดขึ้นอีก จึงต้องจัดมาตรการที่เหมาะสมและพอเหมาะพอดี คุมสถานการณ์เอาไว้ให้ได้

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ได้ตั้งเป้าเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ โดยไม่ต้องกักตัว ให้ได้ภายใน 120 วัน พร้อมเร่งเครื่องการฉีดวัคซีนให้ประชาชน ชื่นชมความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ของเจ้าหน้าที่และบุคลากรสาธารณสุขทุกท่าน เจ้าหน้าที่และผู้ปฏิบัติงาน ส่วนงานอื่น ๆ รวมถึงพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน สำหรับความร่วมมือที่ตอบสนองต่อคำร้องขอเมื่อเดือนมิถุนายน
• หลังจากที่ตั้งเป้า 120 วัน ได้มีความพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อจัดหาวัคซีนมาให้ได้เพิ่มมากขึ้น การรับส่งมอบวัคซีนของไทย เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ถึง 3 เท่าทันทีจากที่เดือนพฤษภาคม ได้รับส่งมอบวัคซีน ถึง 12 ล้านโดสในเดือนกรกฎาคม และได้รับส่งมอบวัคซีน อีกถึงเกือบ 14 ล้านโดสในเดือนสิงหาคม และวันนี้ ได้รับส่งมอบวัคซีนเข้าประเทศไทย ถึงมากกว่า 20 ล้านโดสต่อเดือน ไปจนถึงสิ้นปี รวมเป็นวัคซีนจำนวนมากกว่า 170 ล้านโดส เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้เป็นอย่างมาก
• เจ้าหน้าที่และบุคลากรสาธารณสุข เร่งการฉีดวัคซีน ประชาชนก็ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ในการลงทะเบียนรับการฉีดวัคซีน ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น การฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า และไทยติดอันดับ 1 ใน 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนได้เร็วที่สุดในโลก ปัจจุบันเฉลี่ยฉีดวัคซีนได้มากกว่า 700,000 โดสต่อวัน และบางวันเกินกว่า 1 ล้านโดส

ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า ทั้งโลกต้องเจอกับการแพร่ระบาดที่รุนแรงของสายพันธุ์เดลต้า ทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นสูงมาก เช่นเดียวกับในประเทศไทย หลายคนคงทำใจว่า ไม่น่าจะสามารถเปิดประเทศโดยไม่ต้องกักตัวได้ภายในปีนี้  ขณะที่หลาย ๆ ประเทศยังคงต่อสู้กับเดลต้าอยู่ แต่เรากำลังจะสามารถเริ่มเปิดให้เข้าประเทศไทยได้ โดยไม่ต้องกักตัว ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของการที่คนไทยร่วมมือกัน ทำงานด้วยความมุ่งมั่น และเป็นหนึ่งเดียว ทั้งบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข หน่วยงาน องค์กรต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน รวมถึงความร่วมมือกันของประชาชนคนไทยทุกคน จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมอย่างยิ่ง ที่จะเริ่มเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวให้เข้าประเทศไทยได้ โดยไม่ต้องกักตัว

ผู้สนับสนุนแพลตฟอร์มข่าว-0628929797 DNk79R.jpg Phh9Db.jpg sAyptI.jpg DasKLf.jpg Da2r0R.png DpkFp1.jpg banner1-08.gif Aqh3Ka.jpg Dp1Qd0.png 2wk8Dt.jpg 2wcwIv.jpg

เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ททท. เตรียมจัดงานเฟสติวัลครั้งยิ่งใหญ่ “ใส่ไทย เฟสติวัล” ร่วมผลักดันให้เป็น SOFT POWER ด้านแฟชั่นให้เป็นงานที่ยิ่งใหญ่ส่งท้ายปีอีกครั้ง
ขอนแก่นกับงานยักษ์ใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในเดือนธันวาคม 2567 งานแถลงข่าว “Plara Morlam Isan to the World’24”
เปิดฉาก! สีฐานเฟสติวัล 2024 ลอยกระทงปีนี้ที่ มข.แบบ “วิถีแห่งอีสาน สีฐานมูเตลู”
“ใส่ไทย เฟสติวัล” SOFT POWER ด้านแฟชั่นยิ่งใหญ่ส่งท้ายปี เริ่มขึ้นแล้ว
กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม : “4 วัด 1 วัง เมื่อครั้งต้นกรุงฯ” ชวนย้อนเวลา ส่องวิถี ปลุกแสงสี พระนครศรีอยุธยา ในวันที่ 9 – 17 พ.ย. 2567
รีบๆเลยก่อนสิทธิ์หมด! ททท. จัดแคมเปญ “แอ่วเหนือ…คนละครึ่ง”