วันพุธ, 27 พฤศจิกายน 2567

เปิดแล้วเด้อ!ไทย-ลาวเปิดเดินรถไฟเที่ยวปฐมฤกษ์ กรุงเทพอภิวัฒน์-เวียงจันทน์

22 ก.ค. 2024
7021

นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม กล่าวภายหลังร่วมเป็นประธานเปิดขบวนรถไฟระหว่างประเทศไทย-ลาวเที่ยวปฐมฤกษ์กับ นายไซสงคราม มะโนทัม รอง รมว.โยธาธิการและขนส่ง สปป.ลาว ว่า วันนี้เป็นวันอาสฬหบูชา ซึ่งเป็นวันพระใหญ่ของ สปป.ลาว จึงเป็นฤกษ์ดีในการเปิดเดินรถไฟจากกรุงเทพฯ ถึงสถานีเวียงจันทน์ (คำสะหวาด) อย่างเป็นทางการ

ก่อนหน้านี้ สปป.ลาวมีทางรถไฟเชื่อมต่อระหว่างสถานีหนองคายฝั่งไทยกับสถานีท่านาแล้งฝั่ง สปป.ลาว ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร โดยมีขบวนรถโดยสารวิ่งระหว่างหนองคาย-ท่านาแล้งวันละ 4 ขบวน ต่อมาฝ่ายไทยได้ให้ความช่วยเหลือ สปป.ลาวในการก่อสร้างทางรถไฟขนาดทางกว้าง 1 เมตร ระยะที่ 2 ช่วงท่านาแล้ง-เวียงจันทน์ ระยะทาง 7.5 กิโลเมตรแล้วเสร็จเมื่อปลายปี 2566 และได้มีการประชุมระหว่างไทย-ลาว เพื่อเตรียมความพร้อมเปิดเส้นทางเดินรถไฟ พร้อมกับฝึกอบรมพนักงานขับรถไฟให้กับการรถไฟลาว และเมื่อวันที่ 14-20 พ.ค.67 การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และ รัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งชาติลาว (Lao National Railway State Enterprise: LNRE) ได้เริ่มทดลองเดินรถไฟจากสถานีท่านาแล้งไปยังสถานีคำสะหวาด เพื่อทดสอบระบบและตรวจสอบด้านเทคนิค พร้อมทั้งได้ทดสอบการเดินรถแสมือนจริงเมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา ผลการทดสอบเป็นไปด้วยความเรียบร้อยจึงได้เปิดให้บริการเดินรถเป็นทางการในวันนี้

สถานีคำสะหวาดตั้งอยู่ที่บ้านคำสะหวาด เมืองไซเสดถา นครหลวงเวียงจันทน์ ห่างจากสถานีท่านาแล้งประมาณ 7.5 กิโลเมตร และห่างจากสถานีนครหลวงเวียงจันทน์ประมาณ 16 กิโลเมตร เป็นสถานี 2 ชั้น พร้อมชานชาลา 2 แห่ง โดยชั้นแรกมีพื้นที่ 6,300 ตารางเมตร และชั้นที่สองมีพื้นที่ 3,600 ตารางเมตร ได้รับการสนับสนุนเงินกู้จากสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) ภายใต้โครงการก่อสร้างทางรถไฟไทย-ลาว ระยะที่ 2 (สายท่านาแล้ง-เวียงจันทน์) วงเงิน 994 ล้านบาท ประกอบด้วย งานก่อสร้างระบบรางรถไฟหลักระยะทาง 7.50 กม. งานระบบอาณัติสัญญาณ งานก่อสร้างสถานีเวียงจันทน์ บ้านพักเจ้าหน้าที่ ทางเข้าสถานีเวียงจันทน์ และงานจุดตัดทางรถไฟ โดยนายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศได้เป็นประธานในพิธีเปิดใช้สถานีรถไฟเวียงจันทน์ (คำสะหวาด) ไปเมื่อวันที่ 30 ต.ค.66

iqf47b4276c61ad578a9005fab8194f116

รมช.คมนาคม กล่าวว่า การเปิดเดินรถในครั้งนี้เป็นไปตามข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง รฟท.กับ LNRE โดยใช้พนักงานขับรถของ LNRE เป็นผู้ควบคุมขบวนรถจากสถานีท่านาแล้ง (สถานีระหว่างประเทศ) ไปยังสถานีเวียงจันทน์ (คำสะหวาด) โดยมีพนักงาน รฟท.เป็นพี่เลี้ยงไปกับรถจักรดีเซลไฟฟ้าด้วย ทั้งนี้ รฟท.ได้จัดฝึกอบรมหลักสูตรการขับรถจักรให้แก่พนักงานขับรถของ LNRE เพื่อให้สามารถควบคุมขบวนรถได้อย่างปลอดภัย โดยสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (สพพ.) ของไทยรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม

การเปิดเดินรถไฟเส้นทางกรุงเทพอภิวัฒน์-เวียงจันทน์จะทำให้การเดินทางของประชาชนและนักท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศด้วยระบบรางมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น โดยมีขบวนรถไฟให้บริการวันละ 4 ขบวน ประกอบด้วย ขบวนรถเร็วที่ 133 กรุงเทพอภิวัฒน์-เวียงจันทน์ (คำสะหวาด) , ขบวนรถเร็วที่ 148 เส้นทางเวียงจันทน์ (คำสะหวาด)-อุดรธานี, ขบวนรถเร็วที่ 147 อุดรธานี-เวียงจันทน์ (คำสะหวาด) และขบวนรถเร็วที่ 134 เวียงจันทน์ (คำสะหวาด)-กรุงเทพอภิวัฒน์

โดยผู้โดยสารที่จะมา สปป.ลาวสามารถเดินทางมากับขบวนรถเร็วที่ 133 ออกจากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์เวลา 20.25 น.ถึงสถานีหนองคายเวลา 07.55 น. ระยะทางประมาณ 621 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง 30นาที จากนั้นลงจากขบวนรถพร้อมกระเป๋าเดินทางและหนังสือเดินทาง (passsport) ที่มีอายุเหลืออย่างน้อย 6 เดือน หรือทำบัตรผ่านแดน เพื่อเดินไปยังด่านตรวจคนเข้าเมืองที่สถานีหนองคาย ซึ่งมีให้บริการ 3 ตู้ ตู้ละ 2 ช่อง และเดินผ่านด่านศุลกากร ขณะที่ขบวนรถไฟจะตัดขบวน 4 ตู้หน้าเลื่อนไปรอด้านทิศเหนือของสถานีหนองคาย เมื่อผู้โดยสารผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้ว สามารถเดินขึ้นขบวนรถไฟได้เลย โดยใช้เวลาช่วงนี้ประมาณ 40 นาที ก่อนที่ขบวนรถไฟจะออกจากสถานีหนองคายเวลา 08.35 น. ข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ผ่านสถานีท่านาแล้งไปยังสถานีเวียงจันทน์ (คำสะหวาด) ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 30 นาที โดยขบวนรถไฟจะมาถึงสถานีเวียงจันทน์ (คำสะหวาด) ในเวลา 09.05 น. เมื่อเดินทางมาถึงสถานีเวียงจันทน์ (คำสะหวาด) แล้ว ผู้โดยสารลงจากขบวนรถไฟจะถูกทางบังคับให้เดินเข้าด่านตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งมีทั้งหมด 3 ตู้ (ตู้ละ 2 ช่อง) ประกอบด้วย

ตู้ที่ 1 (ซ้ายสุด) สำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูต และหนังสือเดินทางราชการ

ตู้ที่ 2 (ตรงกลาง) สำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทั่วไป และบัตรผ่านแดน

ตู้ที่ 3 สำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางประเทศอาเซียน (ASEAN Passport)

ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ไม่ได้รับฟรีวีซ่าจาก สปป.ลาว จะมีจุดทำ Visa on Arrival (VOA) อยู่ด้านขวามือสุดของตู้สำหรับผู้หนังสือเดินทางประเทศอาเซียน และเมื่อออกจากอาคารสถานีเวียงจันทน์ (คำสะหวาด) แล้วจะพบเคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วรถโดยสารด้านขวามือ มีรถโดยสารที่เข้าตัวเมืองเวียงจันทน์ จะมีออกแค่ 4 รอบ ช่วงเช้า 09.30 น. กับ 09.40 น. (รับผู้โดยสาร ขบวน133 กับส่งผู้โดยสารขบวน 148) และช่วงเย็น 18.30 น. กับ 18.45 น. (รับผู้โดยสารขบวน 147 กับส่งผู้โดยสาร 134) ค่าโดยสารผู้ใหญ่ราคา 20,000 กีบ และเด็กราคา 10,000 กีบ นอกจากนี้ยังมีรถแท็กซี่และรถตู้ที่เดินทางไปยังที่ต่าง ๆ ในนครหลวงเวียงจันทน์ และเมืองใกล้เคียง รวมถึงสถานีรถไฟนครหลวงเวียงจันทน์ (ลาว-จีน) ที่ห่างจากสถานีเวียงจันทน์ (คำสะหวาด) ประมาณ 16 กิโลเมตร นอกจากนี้ที่สถานีเวียงจันทน์ (คำสะหวาด) ยังมีช่องสำหรับจองตั๋วรถไฟลาว-จีน (LCR) ซึ่งมีเคาน์เตอร์ขายโดยเฉพาะด้วยด้านซ้ายมือสุดของช่องจำหน่ายตั๋วรถไฟไทย-ลาว สามารถที่จะซื้อตั๋วรถไฟได้เช่นกัน

image

ขณะที่ขบวนรถเร็วที่ 133 เส้นทางกรุงเทพอภิวัฒน์-เวียงจันทน์ (คำสะหวาด) และขบวนรถเร็วที่ 134 เวียงจันทน์ (คำสะหวาด)-กรุงเทพภิวัฒน์ ค่าตั๋วรถไฟนั่งชั้นสามพัดลมราคา 281 บาท (152 ที่นั่ง) , รถนั่งชั้นสองปรับอากาศราคา 574 บาท (64 ที่นั่ง) , รถนั่งและนอนชั้นสองปรับอากาศ (30 ที่นั่ง) เตียงบนราคา 784 บาท และเตียงล่างราคา 874 บาท ส่วนขบวนรถเร็วที่ 148 เวียงจันทน์ (คำสะหวาด)-หนองคาย-อุดรธานี และขบวนรถเร็วที่ 147 อุดรธานี-หนองคาย-เวียงจันทน์ (คำสะหวาด) คิดอัตราพิเศษ แบ่งเป็นระยะ ดังนี้

ช่วงอุดรธานี-เวียงจันทน์ : รถพัดลม 100 บาท/รถแอร์ 200 บาท

ช่วงอุดรธานี-หนองคาย : รถพัดลม 30 บาท/รถแอร์ 80 บาท

ช่วงหนองคาย-เวียงจันทน์ : รถพัดลม 70 บาท/รถแอร์ 120 บาท

“การเปิดให้บริการรถไฟระหว่างประเทศในครั้งนี้ถือเป็นการแสดงถึงความมุ่งมั่นของทั้งสองประเทศในการพัฒนารถไฟที่มีประสิทธิภาพ สะดวกสบาย และปลอดภัย ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการเดินทางและการขนส่งระหว่างกัน รวมถึงกระตุ้นการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว อันจะนำไปสู่การเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างไทยและลาวให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น” นายสุรพงษ์ กล่าว

ผู้สนับสนุนแพลตฟอร์มข่าว/สนใจลงโฆษณาติดต่อ นิตยา สุวรรณสิทธิ์ -0628929797 7003315842a3e5554.jpeg tz01.jpeg 2_07b2fa84021c11013.jpeg sm02.jpeg green-white-background06.jpeg cropped-kk0012-scaled-3.jpeg ลิงค์สำรองการฟังวิทยุออนไลน์ FM101.MHZ radio20766.gif

เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ททท. เตรียมจัดงานเฟสติวัลครั้งยิ่งใหญ่ “ใส่ไทย เฟสติวัล” ร่วมผลักดันให้เป็น SOFT POWER ด้านแฟชั่นให้เป็นงานที่ยิ่งใหญ่ส่งท้ายปีอีกครั้ง
ขอนแก่นกับงานยักษ์ใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในเดือนธันวาคม 2567 งานแถลงข่าว “Plara Morlam Isan to the World’24”
เปิดฉาก! สีฐานเฟสติวัล 2024 ลอยกระทงปีนี้ที่ มข.แบบ “วิถีแห่งอีสาน สีฐานมูเตลู”
“ใส่ไทย เฟสติวัล” SOFT POWER ด้านแฟชั่นยิ่งใหญ่ส่งท้ายปี เริ่มขึ้นแล้ว
กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม : “4 วัด 1 วัง เมื่อครั้งต้นกรุงฯ” ชวนย้อนเวลา ส่องวิถี ปลุกแสงสี พระนครศรีอยุธยา ในวันที่ 9 – 17 พ.ย. 2567
รีบๆเลยก่อนสิทธิ์หมด! ททท. จัดแคมเปญ “แอ่วเหนือ…คนละครึ่ง”