“จุรินทร์”จับมือ 7 แพลตฟอร์มดัง ขายผลไม้เกรดพรีเมียม ช่วยชาวสวนระบายผลผลิต

“จุรินทร์” เปิดโครงการ 2 เดือนทองผลไม้ไทย จับมือ 7 แพลตฟอร์มออนไลน์ชื่อดัง ขายผลไม้เกรดพรีเมียม ช่วยชาวสวนระบายผลผลิต หลังโควิด-19 ทำส่งออกลำบาก และช่วยผู้บริโภคได้บริโภคผลไม้คุณภาพดี ราคาถูก ส่วนตลาดต่างประเทศเน้นออนไลน์ด้วย ผนึกเว็บไซต์ดังเจาะจีน อินเดีย กัมพูชา ญี่ปุ่น สิงคโปร์ สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ พร้อมแจ้งข่าวดี จีนไฟเขียวไทยขนผลไม้ผ่านสปป.ลาว เวียดนาม ก่อนเข้าจีนได้ 4 ด่าน คาดส่งออกผลไม้พุ่งแน่
         
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยในการเป็นประธานเปิด “โครงการ Thailand Fruits Golden Months : ไทยช่วยไทย ชาวสวนอยู่ได้ ประเทศไทยอยู่รอด” ที่กระทรวงพาณิชย์ ว่า เป็นโครงการที่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ร่วมมือกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำ ได้แก่ Thailandpostmart , Shopee , Lazada , JD Central , Jatujakmall , Cloudmall , The Hub Thailand และ Octorocket.asia ได้เข้ามาสนับสนุนและช่วยเหลือเกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 โดยจะส่งเสริมช่องทางออนไลน์เข้ามาช่วยให้เกษตรกรสามารถจำหน่ายผลไม้ได้ เพราะปัจจุบันหลายสวนไม่สามารถส่งออกไปขายตลาดต่างประเทศได้เต็มที่ดังเช่นทุกปีที่ผ่านมา ซึ่งจะช่วยเพิ่มช่องทางระบายผลไม้ ส่วนผู้บริโภคจะสามารถหาซื้อผลไม้เกรดพรีเมียมคุณภาพส่งออกได้ในราคาประเทศไทย เช่น มะม่วง ทุเรียน มังคุด และผลไม้ไทยอื่นๆ ที่จะทะยอยออกสู่ตลาดต่อไป เช่น ลำไย และลิ้นจี่ เป็นต้น  
         
“ที่ผ่านมา ได้ลงพื้นที่ทั้งรับฟัง ร่วมคิด ร่วมวางแผนล่วงหน้ามาก่อนทุกระยะ และพอมีสถานการณ์โควิด-19 ก็ปรับแผนงานรองรับเพิ่มทั้งกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จนมาวันนี้ ได้เปิดเดือนทองของผลไม้ 2 เดือน เริ่มตั้งแต่ 1 พ.ค.-30 มิ.ย.2563 เพื่อส่งเสริมการค้าผลไม้ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ 7 แพลตฟอร์ม เพื่อให้คนไทยสามารถซื้อผลไม้คุณภาพดี เกรดส่งออก เพื่อบริโภคได้สะดวก ในราคาถูก และสามารถช่วยเหลือชาวสวนผลไม้ทุกชนิด สอดคล้องกับสถานการณ์ในขณะนี้ที่จะพลิกวิกฤติโควิด-19 เป็นโอกาส”นายจุรินทร์กล่าว
         
ทั้งนี้ ได้ตั้งเป้าหมายมีผู้เข้าร่วมโครงการจากกลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ วิสาหกิจชุมชน ตลอดจนผู้ส่งออก รวม 50 ราย ขณะนี้มีจำนวนสินค้าขึ้นจำหน่ายแล้วกว่า 60 รายการบนแพลตฟอร์มต่างๆ
         
นายจุรินทร์กล่าวว่า ทางด้านตลาดต่างประเทศ ได้ปรับแผนและภารกิจในการกระจายผลไม้ โดยมอบหมายให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศปรับรูปแบบกิจกรรมต่างๆ จากรูปแบบเดิมเป็นรูปแบบออนไลน์ เพื่อส่งเสริมการจำหน่ายผลไม้ไทย และเร่งรัดการส่งออกผลไม้เชิงรุก โดยจะร่วมมือกับ Tmall ของจีน , Bigbasket อินเดีย , Khaleang.com กัมพูชา , Aeon ญี่ปุ่น , Amazon สิงคโปร์และสหรัฐฯ และ Lotte เกาหลีใต้ เป็นต้น รวมทั้งการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายออนไลน์กับเว็บไซต์พันธมิตรในตลาดอาเซียน จีน และยุโรป และให้เพิ่มกิจกรรมเจรจาธุรกิจผ่านทางออนไลน์ระหว่างผู้ซื้อกับผู้ส่งออกไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดได้จัดให้มีการเจรจากับผู้นำเข้ามะม่วงจากเกาหลี ขายได้ 3,200 ตัน มูลค่า 15 ล้านเหรียญสหรัฐ
         
ส่วนการแก้ไขปัญหาข้อติดขัดในด้านการขนส่งผลไม้ ล่าสุดได้ตกลงกับจีนในการบังคับใช้พิธีสารการขนส่งผลไม้ไปจีนทางบก ซึ่งเดิมจะต้องมีการลงนามกันก่อน แต่ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 จึงขอให้มีผลในทางปฏิบัติเลยตั้งแต่วันที่ 30 เม.ย.2563 ทำให้การขนส่งผลไม้จากไทยไปจีนผ่านสปป.ลาว และเวียดนาม ทำได้สะดวกขึ้น และปัจจุบันผลไม้ไทยสามารถเข้าสู่ตลาดจีนได้ 4 ด่าน คือ โมหัน โหย่วอี้กวน ด่านรถไฟผิงเสียง และตงซิง ซึ่งจะช่วยให้ผลไม้ไทยส่งออกไปจีนได้เพิ่มขึ้น