สวัสดีค่ะ และแล้วทริปล่องเรือสำราญ Italian Classical Transatlantic ก็ถึงจุดสิ้นสุดเส้นทาง หลังจาก 15 คืนเต็มๆในเรือ เราถึงท่า Civitavecchia อิตาลีในช่วงสายของวันแล้วจับแท็กซี่ต่อเข้ากรุงโรม มหานครแห่งประวัติศาสตร์อาณาจักรโรมันในอดีต ต้องยอมรับว่าถนนทุกสายมุ่งสู่โรมตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมามากที่สุด ในฐานะเมืองหลวงอิตาลีที่แคว้น ลาซีโอ และเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของแคว้น ที่สำคัญเป็นที่ตั้ง นครวาติกัน Vatican ที่ประทับของพระสันตะปาปาแห่งศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก
โรม มนต์ขลังอาณาจักรโรมันในอดีต ดินแดนแห่งประวัติศาสตร์ชาวโรมันที่มีความเป็นมายาวนาน 2800 ปี จึงไม่แปลกที่ศูนย์ประวัติศาสตร์ใจกลางกรุงโรมได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้ป็นมรดกโลก และ โคลอสเซียมคือ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ทำให้โรมติดอันดับเมืองท่องเที่ยวแถวหน้าของยุโรป เฉลี่ยนักท่องเที่ยวที่ นครวาติกัน 4.5 ล้านคนต่อปี ที่พิพิธภัณฑ์โคลอสเซียม 4 ล้านคนต่อปี มนต์ชลังที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวอยู่ที่ สถาปัตยกรรม ไม่ว่าจะเป็นสิ่งปลูกสร้างทางราชการ ศาสนา รูปปั้นเทพบูชา ที่พักอาศัย มีความแปลกโดดเด่น ตื่นตาตื่นใจ บ่งบอกถึงความยิ่งใหญ่ของชาวโรมันในอดีต ตั้งแต่โรมันยุคโบราณ ยุคกลาง ยุคฟื้นฟูศิลปะวิทยาบาโรก ยุคลัทธิคลาสสิคใหม่จนถึงยุคสถาปัตยกรรมฟรานซิส
ทริปโรมครั้งนี้แม้จะต่อยอดจากการล่องเรือแต่เราก็มีแพลนไว้ล่วงหน้า การเที่ยวทุกวันนี้สะดวกเพราะทุกๆเมืองท่องเที่ยวมีการบริหารจัดการเรื่องความสะดวกสบายให้นักท่องเที่ยว ก่อนมาเราจองโรงแรมเก่าแก่ไว้ แม้ไม่ใหญ่โตแต่ในสไตล์โรมันใจกลางกรุงโรม เดินช้อปเดินเที่ยวได้สบายๆ ในการเที่ยวเราเลือกซื้อตั๋วทัวร์ใบเดียวเที่ยวสองวันกับบริษัททัวร์ หยุดเที่ยว แวะขึ้นลงได้ทุกที่ที่มีป้าย ส่วนสถานที่สำคัญต้องซื้อตั๋วต่างหาก และมีอีกแบบคือ Roma Pass ใช้ได้หมดทั้งรถเมล์ รถไฟใต้ดิน มีแบบสองวัน และ สามวัน ทั้งแบบบวกค่าตั๋วพิพิธภัณฑ์ และไม่มีอยู่ที่จะเลือก ในการเที่ยวโรมตามแผนที่มีสองฝั่งค่ะ คือฝั่งซ้ายของแม่น้ำไทเบอร์เป็นที่ตั้งของนครวาติกัน ฝั่งขวามีจุดท่องเที่ยวมากมายเป็นศูนย์กลางกรุงโรม มีโคลอสเซียม Colosseum วิหารแพนธรีออน Pantheon น้ำพุเทรวี่ Trevi Fountain และบันไดสเปน Spanish Steps โดยสองฝั่งเชื่อมด้วยสะพานสามารถเดินข้ามได้
วันแรกเราเริ่มต้นทัวร์รอบๆโรมก่อนจะหยุดที่โคลอสเซียม แลนด์มาร์คที่พอเห็นปุ๊บก็รู้เลยว่าโรม สนามกีฬากลางแจ้ง อัฒจันทร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกจุคนได้ ห้าหมื่นคนอายุกว่าสองพันปี ใช้เวลาสร้างถึงแปดปี โดยนักโทษชาวยิว ในอดีตเป็นสถานที่ปะลองฝีมือ Gladiator การสู้ระหว่าคนกับคนและคนกับสัตว์ ด้านในเดินวนรอบๆ ตรงกลางเปิดให้เห็นชั้นใต้ดิน อีกด้านจะมองเห็นสิ่งปลูกสร้างที่เรียกว่า Arc of Constantine ยอมรับว่าทึ่งในความยิ่งใหญ่ของโรมันโบราณจริงๆ จากโคลอสเซียมเรามุ่งไปที่น้ำพุเทรวี่ พอได้จุดยืนเหมาะๆก็อธิษฐานโยนเหรียญตามธรรมเนียมไม่งั้นมาไม่ถึงโรมค่ะ ไม่รู้พระเจ้าจะเจอเหรียญเรารึเปล่าเพราะคนเยอะมากๆ รอบๆแอเรียนี้มีที่ช้อปเหมือนกัน ในขณะที่เราอยู่บนรถก็ผ่านที่สำคัญๆและเป็นจุดท่องเที่ยว Roman Forum ศูนย์กลางโรมันในอดีต เศษซากก้อนหิน แท่งเสาที่เคยเป็นศาลปกครอง สภา ที่บูชาเทพเจ้า ด้านบนเป็นเนินเขา Palatino Hill ผ่านหน้าวิหาร Pantheon เป็นลานกว้างผู้คนพลุกพล่าน สร้างเมื่อ 27 ปีก่อนคริสตกาลเป็นที่ฝังพระศพของกษัตริย์ และศพของขุนนางสำคัญ อีกหลายที่ในโรมที่ไม่น่าพลาด อย่าง บันไดสเปน นั่งพักสายตาดูคลื่นผู้คนมีถนนเชื่อมต่อย่านช้อปของสาวกแบรนด์เนม จัตุรัสนาโวนา ดงศิลปินน้ำพุ ตึกสีสวยสดใส เสาโอเบกิสต์ หรืแม้แต่ย่าน Trastevere ศูนย์รวมผับ ร้านอาหาร ตลาดนัดริมฝั่งแม่น้ำไทเบอร์
เราใช้วันแรกในโรมอย่างคุ้มเลยค่ะ จบด้วยพิซซ่ารสชาติเยี่ยมของอิตาลี เจลาโต้รสผลไม้ที่ขึ้นชื่อ แม้จะเหนื่อยแต่ สนุก ตื่นเต้นตื่นตาตื่นใจกับความยิ่งใหญ่ของโรมันในอดีต ตกหลุมรักโรมอย่างถอนตัวไม่ขึ้นเลยค่ะ แน่นอนโลกไม่กว้างอย่างที่คิด กำไลชีวิตคือการเดินทาง เราจะเที่ยวต่อที่ นครวาติกัน ฉบับหน้าอย่าลืมติดตามนะคะ สวัสดีค่ะ



