สวัสดีค่ะ ทริปนี้พาขึ้นไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประเทศแคนาดา เส้นทางพาดผ่านแนวเทือกเขาร็อกกี้เข้าไปดินแดนไดโนเสาร์ในยุคมืด ในแนวหุบเขาจากการยุบตัวของเปลือกโลก ณ วันนี้ยังคงร่องรอยให้เห็นชัดเจน บางส่วนเป็นแอ่งแม่น้ำ ซากเนินเขาหินปูน สูงต่ำ ชุมชนเมืองเล็กๆหลบซ่อนอยู่ค่อนขั้วโลกเหนือแห่งนี้ เป็นที่มาดินแดนไดโนเสาร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก กับแผนที่ชื่อเมือง Drumheller ในเขตจังหวัด อัลเบอร์ต้า
อากาศอบอุ่นถึงค่อนข้างร้อนของหน้าร้อน ในช่วงเวลาที่ยังอยู่ที่เรดเดียร์จึงมีโอกาสมาที่เมืองนี้สองสามครั้งด้วยเหตุผลแตกต่าง แต่ทุกครั้งก็เป็นวันเดย์ทริป เพราะขับรถประมาณสองชั่วโมงจากที่พักกับปลายทาง Drumheller จากข้อมูลที่ได้ เป็นพื้นที่ badland ทำเหมืองแร่ถ่านหินมาก่อน ทำการเกษตรได้น้อย เขตตัวเมืองเป็นแอ่งหุบเขากับแอ่งแม่น้ำ เรดเดียร์ไหลผ่าน ความน่าสนใจอยู่ที่ สมญานามเมืองหลวงไดโนเสาร์ในยุคมืด กว่า 75 ล้านปีมาแล้ว ปัจจุบันมีการพัฒนาทำการเกษตรได้มากขึ้น บวกกับการท่องเที่ยว สำหรับผู้ที่รักการค้นหาเรื่องราวที่มีผลมาจากอดีต เมืองเล็กแต่มากด้วยเสน่ห์ ผู้คนเป็นมิตร มีหลายที่ที่น่าสนใจ โดยเฉพาะศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่เป็นจุด The World’s Dinosaur ชมวิวที่หุบเขาเกือกม้า Horseshoe Canyon และ Horsethief Canyon ขับรถรอบเส้นทางไดโนเสร์ในอดีตกว่า 48 กิโลเมตรในเขตอุทยาน มิดแลนด์ พิพิธภัณฑ์ Royal Tyrrell ชมเสาหินดินเหนียวปนทรายรูปร่างแปลกที่ Hoodoo Provincial Recreation วิวสวยของแอ่งแม่น้ำเรดเดียร์ที่ Orkney Viewpoint หรือเดินเส้นทางธรรมชาติที่ Centennial Park สัมผัสวิถีชุมชนที่อยู่ขนานกับแม่น้ำเรดเดียร์
หลังจากผ่านท้องทุ่งเวิ้งว้างกว้างไกลสุดลูกตา เริ่มเข้าสู่ดินแดนไดโนเสาร์ เริ่มแปลกตากับเนินเขาสลับแอ่งกะทะ สีหม่นปนเทาของดินเหนียวกับหินปูน โดยสองสามจุดหลักเมนพ้อยท์ของทริปเราที่แพลนไว้เราจึงตรงดิ่งไปที่จุดแรก นั่นคือ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว มองเห็นส่วนหัว Trex สูงพ้นอาคารอยู่ลิบๆเป็นที่มา The World’s Dinosaur รูปปั้น ทีเร็กซ์ เป็นหอสูงสร้างด้วยไฟเบอร์กลาส เรียก The Tyrannosaurs Rex towers สูง 26 เมตร ภายในมีบันไดขึ้นไปถึงช่องปากเป็นจุดชมวิวเมือง ด้านล่างเป็นร้านค้า มีสวนเพื่อปิคนิค สนามเด็กเล่น เมื่อได้แผนที่ เส้นทาง เราต่อไปที่เส้นทางขับรถชมแอ่งหุบเขาดินแดนที่อยู่ไดโนเสาร์ในอดีตเพื่อผ่านไปอีกเป้าหมายหลักที่จะเที่ยวคือ พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ใหญ่ที่สุดในโลก Royal Tyrrell Museum ชื่อนี้ตั้งเพื่อเป็นเกีรติกับ Joseph Tyrrell ผู้ค้นพบ Albertosaurusในปี 1884
ก้าวแรกพ้นประตูเข้าไปด้านในความรู้สึกบอกว่าเรากลับสู่ยุคมืดเมื่อ เจ็ดสิบห้าล้านปี การจัดแสดง โชว์เรื่องราวจากการสำรวจค้นพบบวกเทคโนโลยีทำเอาทึ่ง กว่า 13000 ชนิดของสิ่งมีชีวิตที่ค้นพบในยุคนั้น 35 โครงกระดูกไดโนเสาร์ที่สมบูรณ์ ซึ่งบางส่วนนำมาจากรัฐ ยูทาร์ ประเทศสหรัฐ โครงกระดูกช้างแมมมอส บางพื้นที่เป็นห้องแลป เศษซาก หิน ดิน กระดูกมากมาย เราสามารถมองผ่านหน้าต่างกระจกเห็นการทำงานของเจ้าหน้าที่ ต้องใข้เวลาอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง กว่าจะพบทางออกที่เป็นร้านขายของที่ระลึก ในขณะความตื่นเต้นยังอยู่เรามุ่งหน้าต่อไปที่ ฮูดู The Hoodoo Provincial Recreation Day Use area เสาหินดินเหนียวปนทรายรูปร่างคล้ายดอกเห็ด ปฎิมากรรมที่ธรรมชาติสร้างกว่าสิบๆล้านปี จากฮูดูเราย้อนกลับทางเดิมนำรถลงเรือเฟอร์รี่ข้ามแม่น้ำเรดเดียร์ไปอีกฝั่งแวะจุดชมวิวหุบเขาเกือกม้า แอ่งแม่น้ำ มองสุดสายตากับคุ้งน้ำ แนวหุบเขารูปร่างแปลก ร่องรอยที่เกิดจากน้ำและลม สวยเหมือนภาพวาด ศิลปะจากธรรมชาติของจริง ทำเอาจินตนาการไปเมื่อเจ็ดสิบล้านปี บางที่คงเป็นห้องนอนของไดโนเสาร์แน่ๆเลย
Drumheller เมืองเล็กๆที่เต็มไปด้วยเสน่ห์น่าค้นหา หลบซ่อนอยู่ในดินแดนไดโนเสาร์อเมริกาเหนือ ให้ทั้งความแปลกใหม่ ตื่นเต้น ตื่นตาตื่นใจ อีกหนึ่งทริปและประสบการณ์ที่สุดยอดสำหรับผู้ที่รักการค้นหา โดยส่วนตัวแล้วรักการเดินทางมากค่ะ จึงสนุกทุกครั้งแม้จะเป็น วันเดย์ทริปแม้จะเหนื่อยแต่กับเวลาที่ใช้ไปบอกเลยว่า สุดคุ้มจริงๆ โลกไม่กว้างอย่างที่คิด กำไรชีวิตคือการเดินทาง พบกันทริปหน้านะคะ สวัสดีค่ะ