ขอนแก่น เปิดตัว “หมูหัน- หมูหยอง” คู่หูหมูแคระแห่ง “อินสไปริ่ง ฟาร์ม” พร้อมรับนักท่องเที่ยวเข้ามาชมความน่ารักและป้อนนม พร้อมร่วมกิจกรรมเชิงเกษตรครบวงจร สะอาด ปลอดภัย ไร้เชื้อโรค
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 25 ก.ค.2564 ที่ “อินสไปริ่ง ฟาร์ม” ซึ่งตั้งอยู่ ริมถนนกลางเมือง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ห่างจากวัดหนองแวงพระอารามหลวง ประมาณ 500 เมตรเท่านั้น ได้เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาศึกษา หาความรู้ ได้จากการสัมผัสและลงมือทำของจริง ภายใต้แนวคิดของฟาร์ม “Learning & Doing” ภายใต้มาตรการควบคุมและป้องกันจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด โดยบรรยากาศโดยทั่วไปในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์และหยุดยาวต่อเนื่องหลายวันอย่างนี้ มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเยี่ยมชมและร่วมกิจกรรมอันสุดแสนจะน่ารัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการพบ 2 คู่หูสุดป่วนประจำฟาร์ม คือ น้องหมูหยอง และ น้องหมูหัน ซึ่งเป็นหมูแคระเพศผู้ทั้งคู่ ที่จะเดินเพ่นพ่านคอยอ้อนขอกินนมและสร้างสีสันให้กับนักท่องเที่ยวอย่างมาก ซึ่งคู่หูหมูแคระ เจ้าหมูหยองและหมูหันนั้น เป็นหมูแคระที่มีความเชื่องและขี้อ้อน ที่จะคอยดึงดูดต้อนรับนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมชมด้วย
นายศักดิ์สิทธิ์ ศิริประยูรศักดิ์ เจ้าของอินสไปริ่ง ฟาร์ม กล่าวว่า ภายในฟาร์มจะมีฐานให้ความรู้ทางการเกษตรด้านต่างๆ แก่เด็ก เยาวชนจำนวน 4 ฐาน ประกอบด้วย ฐานเมล็ดพันธ์ ที่สามารถเรียนรู้เรื่องเมล็ดพันธุ์ของพืชผักชนิดต่างๆมากมาย ฐานสมุนไพร ก็เรียนรู้ตัวอย่างสมุนไพรต่างๆเช่นตะไคร้หอม ที่จะได้ทำการสกัดน้ำตะไคร้หอมได้ด้วยตัวเอง นำกลับไปใช้เพื่อฉีดพ่นป้องกันยุงได้ด้วย ฐานความหวาน ซึ่งในจุดนี้ ฟาร์มได้มีการปลูกอ้อยในหลายสายพันธุ์ ซึ่งเป็นอ้อยที่นำมาทำน้ำอ้อยดื่มและขายได้ด้วย ทำสมุดจากการดาษชานอ้อย ฐานเทคโนโลยี จะได้ชมการพัฒนาการใช้เทคโนโลยี ในการประหยัดน้ำ ประหยัดไฟและช่วยลดพลังงาน ฐานการปลูกพืชในโรงเรียน ซึ่งในจุดดังกล่าว จะได้เห็นต้นคราม ที่นำมาหมักและทำน้ำคราม มาย้อมสีผ้าได้ นอกจากนี้ทางฟาร์มยังมีกิจกรรมที่สามารถลงมือทำ เช่นการทำแบตเตอรี่จากดิน สนกัดน้ำมันหอมระเหย เพนท์กระเป๋าสีสมุนไพร ปลูกเมล็ดพันธ์ และการทำพิซซ่าเตาดิน สมุดจากการดาษชานอ้อย ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้ ทำได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่สร้างความรักความสามัคคีให้กับครอบครัวที่ได้ร่วมกันทำกิจกรรมภายในฟาร์มแห่งนี้
“อินสไปริ่ง ฟาร์ม มีเนื้อที่ 16 ไร่ ทำเป็นฟาร์ม 10 ไร่ และในสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 นั้น การมาเที่ยวนอกบ้าน ซึ่งอยู่ใกล้ๆเขตเมือง เชื่อว่าเป็นเรื่องที่ทุกคนยังทำได้ ซึ่งฟาร์มได้ปฏิบัติตามมาตรฐานของสาธารณะสุขอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในทุกขั้นตอน เพราะความปลอดภัยต้องมีให้กับทุกคน ทั้งพนักงานและนักท่องเที่ยวด้วย โดยฟาร์มจะแบ่งการรับนักท่องเป็น 2 กลุ่มคือ ครอบครัว ทุกคนอยู่บ้านด้วยกันคือกลุ่มเดียวกัน ไม่ได้สัมผัสกับใคร มาที่ฟาร์มก็จะมีคนในครอบครัว และกลุ่มนักท่องเที่ยว ถ้าเป็นกลุ่มใหญ่ ก็จะรับเพียงกลุ่มเดียว ส่วนจุดดึงดูดความสนใจให้คนเข้ามาเที่ยวชม คือ การเดินเที่ยวในฟาร์มที่บรรยากาศปิดและโปร่ง ทำสมุดทำมือจากกระกาษชานอ้อย ให้นมหมูแคระ เก็บไข่ไก่ และทำพิซซ่าเตาดิน ปลูกผักจากเมล็ดพันธุ์ การทำน้ำยาพ่นกันยุงจากตะไคร้หอม ซึ่งนักท้องเที่ยวสามารถนำกลับบ้านได้ด้วย”
นายศักดิ์สิทธิ กล่าวต่ออีกว่า ในฟาร์มยังสามารถเรียนรู้การทำลูกประคบ เพ้นท์กระถาง พิซซ่าเตาดิน จัดสวนขวด ทำเทียน ปั้นดิน ในส่วนของเด็กๆ ก็มีการให้ความรู้ขั้นพื้นฐานทางการเกษตรมีกิจกรรมให้ความรู้มากมาย และในส่วนของนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาเที่ยวในฟาร์ม และอยากร่วมทำกิจกรรมต่างๆเช่น ทำพิซซ่าเตาดิน เป็นกิจกรรมละ200บาท หรือจัดสวนขวด เพ้นท์กระถาง ทำเทียน ปั้นดิน คนละ100 บาท และถ้ามาเป็นกลุ่มๆละ 10 คนขึ้นไป คนละ100บาท และในสถานการณ์โควิดระบาด ฟาร์มมีการปรับตัว ด้วยการขายและสอนออนไลน์ โดยพนักงานจะทำสื่อการสอนเป็นคลิปไว้ สอนและขายผ่านออนไลน์ นอกจากนี้ทางฟาร์มก็ได้ปรับตัวเองให้เข้ากับสถานการณ์ ด้วยการสร้างผลิตภัณฑ์ของตัวเองจากการเกษตร ด้วยการขายผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่นการขายผลิตภัณฑ์ของตัวเอง ด้วยการปลูกผักสลัดขายส่งตามโรงแรม ร้านค้า และการปลูกฟ้าทลายโจร ปลูกกระชาย ปลูกขิงขาย มากกว่าการให้ความรู้ทางวิชาการ