ททท. ภาคอีสานผนึกกำลัง 12 สนามกอล์ฟอีสานจัดกิจกรรม “กอล์ฟอีสานสุขสนุกx2” กระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(ภาคอีสาน)ปี2565 /เมื่อเช้าวันที่ 9 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา ณ สนามกอล์ฟพานอรามา กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา นายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ททท. เป็นประธานในงานแถลงข่าวOnlineเปิดกิจกรรม “กอล์ฟอีสานสุขสนุก x 2” การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับ 12 สนามกอล์ฟที่มีชื่อเสียงในภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จาก 5 จังหวัด ได้มาตรฐานร่วมฝ่าวิกฤตCOVID “เที่ยวอีสาน : สะดวก สบาย ปลอดภัย ได้มาตรฐาน” ซึ่งมีรายนามดังต่อไปนี้
1.จังหวัดนครราชสีมา ได้แก่ สนามกอล์ฟพานอรามากอล์ฟแอนด์คันทรีคลับ, สนามกอล์ฟแรนโชชาญวีร์รีสอร์ทแอนด์คันทรีคลับ, สนามกอล์ฟเขาใหญ่คันทรีคลับ, สนามกอล์ฟทอสคาน่าวัลเล่ย์คันทรีคลับ, สนามกอล์ฟมายโอโซนกอล์ฟคลับเขาใหญ่, สนามกอล์ฟเมาท์เท่นครีกกอล์ฟรีสอร์ทแอนด์เรสซิเด้น และสนามกอล์ฟโคราชคันทรีคลับกอล์ฟแอนด์รีสอร์ท
2.จังหวัดขอนแก่น ได้แก่ สนามกอล์ฟสิงห์ปาร์คขอนแก่นกอล์ฟคลับ และสนามกอล์ฟแดนคูนกอล์ฟคลับแอนด์โฮเต็ล
3.จังหวัดอุดรธานี ได้แก่ สนามกอล์ฟรอยัลครีคกอล์ฟคลับแอนด์รีสอร์ท
4.จังหวัดหนองคาย ได้แก่ สนามกอล์ฟวิคตอรี่พาร์คกอล์ฟแอนด์คันทรีคลับ
5.จังหวัดอุบลราชธานี ได้แก่ สนามกอล์ฟเขื่อนสิรินธร
จัดขึ้นเพื่อกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวภายในภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยกิจกรรมจะเริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ – กรกฎาคม 2565 กิจกรรมประกอบไปด้วยโปรโมชั่น
ร่วมรับความสุขสนุก 2 ชั้น คือ
(1) ลุ้นรับสิทธิ์กรีนฟี”วันธรรมดา”ในราคาก๊วนละบาท ทุก 3 เดือน
(2) ลุ้นรับสิทธิ์เข้าร่วมกิจกรรม Lady & Premium Golf ททท. ในวันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม 2565 ในราคาท่านละ 100 บาท นอกจากนี้ ยังมีสิทธิ์รับของที่ระลึกอีกมากมายตลอดระยะเวลาของการจัดกิจกรรม
นายสมชาย ชมภูน้อย กล่าวว่า ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรือภาคอีสาน 20จังหวัด มีความพร้อมในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวด้านกีฬา (Sport Tourism) ไม่แพ้ภาคอื่นๆ โดยเฉพาะกีฬากอล์ฟ ซึ่งในภูมิภาคมีสนามกอล์ฟที่ได้มาตรฐานกว่า 40 สนาม ในแต่ละสนามก็มีความสวยงาม และมีจุดเด่นของแต่ละสนามที่แตกต่างกันออกไป นอกจากนี้ ภาคอีสานยังมีความโดดเด่นในเรื่องแหล่งท่องเที่ยวเชิง “ธรรมชาติ วัฒนธรรม ธรรมะ” มีอาหารถิ่นแซ่บนัวที่เป็นเอกลักษณ์ และพื้นที่ในภูมิภาคนี้ยังถือเป็นแหล่งที่มีอากาศบริสุทธิ์ติดอันดับโลกอีกด้วย
ททท. คาดว่า การจัดกิจกรรมดังกล่าวจะสามารถกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวภายในภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้อย่างต่อเนื่องในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวนี้ภายหลังการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) นอกจากนี้ ยังเป็นการกระตุ้นให้เกิดการกระจายตัวของนักท่องเที่ยวชาวไทย สอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว “เมืองหลัก สู่ เมืองรอง” ของ ททท. รวมทั้ง สร้างการรับรู้ภาพลักษณ์ของภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือในมิติโฉมใหม่ โดยเจาะลึกเรื่องสไตล์ การเที่ยวแบบเท่ๆ เชื่อมโยงกับวัฒนธรรมท้องถิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ที่ผสมผสานระหว่างภูมิปัญญาชาวบ้านกับไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ กับ “Cool~Isan in Love”ต่อไป
