วันพุธ, 27 พฤศจิกายน 2567

ททท. ชูเสน่ห์ไทย (Soft Power) ด้าน Fashion & Craft 

ททท. ชูเสน่ห์ไทย (Soft Power) ด้าน Fashion & Craft จัดแสดงผลงาน Thai Craft Destination ต่อยอดต้นทุนทางวัฒนธรรม เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจใน 6 จังหวัดเมืองสร้างสรรรค์ สร้างเสน่ห์แฟชั่นไทยในระดับสากล

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดยฝ่ายสินค้าการท่องเที่ยว แถลงข่าวกิจกรรมแสดงผลงาน Thai Craft Destination” ร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจการท่องเที่ยวผ่านการพัฒนายกระดับผลิตภัณฑ์และวัตถุดิบท้องถิ่นด้วยเสน่ห์ไทย (Soft Powerด้าน Fashion & Craft โดยมี นางสาวเด่นเดือน เหลืองเช็ง ผู้อำนวยการฝ่ายสินค้าการท่องเที่ยว ททท. เป็นประธานในการแถลงข่าว ณ บริเวณ ชั้น โครงการเวลา แอท สินธร วิลเลจ หลังสวน กรุงเทพมหานคร เพื่อนำเสนอผลงานสร้างสรรค์ พร้อมสนุกสนานกับกิจกรรมสาธิต Fashion & Craft จาก 6 จังหวัดเมืองสร้างสรรรค์ (Creative City) ต่อยอดต้นทุนทางวัฒนธรรมเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ สร้างเสน่ห์แฟชั่นไทยในระดับสากล  

นางสาวเด่นเดือน เหลืองเช็ง ผู้อำนวยการฝ่ายสินค้าการท่องเที่ยว ททท. กล่าวว่า ททท. ยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยด้วยการนำเสนอเสน่ห์ไทย หรือ Soft Power อันเป็นจุดแข็งจุดขายของประเทศไทยควบคู่กับการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ (Creative Tourism) เพื่อบอกเล่าเรื่องราว (Storytelling) และถ่ายทอดประสบการณ์ทางการท่องเที่ยวที่สอดคล้องกับ Soft Power ซึ่งถือเป็นต้นทุนทางวัฒนธรรมที่เข้มแข็งของประเทศ ททท. จึงดำเนินโครงการพัฒนายกระดับผลิตภัณฑ์และวัตถุดิบท้องถิ่นด้วย Soft Power ผ่านกิจกรรมแสดงผลงาน “Thai Craft Destination” ที่นำเสนอสินค้าการท่องเที่ยวด้าน Fashion & Craft ใน 6 จังหวัดเมืองสร้างสรรค์ (Creative Tourism) ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่, แพร่, ขอนแก่น, สกลนคร, นครศรีธรรมราช และปัตตานี มาจัดแสดงให้ผู้ที่สนใจได้รับชม พร้อมเชิญชวนร่วมสนุกกับกิจกรรมสาธิตภายในงาน การจัดงานในครั้งนี้นอกจากจะเป็นการนำเสนอผลงานสร้างสรรค์และสื่อสารอัตลักษณ์ท้องถิ่นให้ได้รู้จักเป็นวงกว้างแล้ว ยังเป็นการต่อยอดต้นทุนทางวัฒนธรรมที่มีมาสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ อันจะนำไปสู่การสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในเวทีโลกต่อไป

3-130

ภายในงาน ททท. ได้จัดแสดงผลงานสร้างสรรค์ด้าน Fashion & Craft จากชุมชนท่องเที่ยว 6 จังหวัดเมืองสร้างสรรค์ (Creative Tourism) เพื่อส่งมอบประสบการณ์การท่องเที่ยวผ่าน Soft Power โดยมีรายละเอียดแนวคิดของแต่ละจังหวัด ดังต่อไปนี้

1. จังหวัดเชียงใหม่ (แดนจักสานและงานไม้) จัดแสดงภายใต้แนวคิด “Chiang Mai Upcycling” ชาวเชียงใหม่ผูกพันกับธรรมชาติและงานฝีมืออย่างแนบแน่น โดยเฉพาะงานไม้และงานจักสานที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ จึงมีความคิดสร้างสรรค์ในการนำวัสดุที่เหลือจากงานหัตถกรรม หมุนเวียนกลับมาสร้างเป็นสินค้าใหม่ได้อย่างน่าสนใจ  

2. จังหวัดแพร่ (แดนหม้อห้อม) จัดแสดงภายใต้แนวคิด “Retreat Phrae” การนำวัตถุดิบท้องถิ่นอย่าง ห้อม พืชที่ให้สีน้ำเงิน และเติบโตได้ดีท่ามกลางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ของจังหวัดแพร่ นิยมนำมาย้อมผ้าสำหรับสวมใส่ ซึ่งเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ส่งต่อกันรุ่นสู่รุ่นและสร้างอาชีพให้กับคนในชุมชนมาช้านาน จากงานหัตถกรรมดั้งเดิมจึงได้รังสรรค์ขึ้นใหม่ผ่านแรงบันดาลใจจากธรรมชาติสู่การพัฒนารูปแบบสินค้าห้อมให้ทันสมัย

3. จังหวัดขอนแก่น (แดนมัดหมี่) จัดแสดงภายใต้แนวคิด “Circular Phuvieng” ผ้ามัดหมี่ร่วมสมัยจากแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน ซึ่งจังหวัดขอนแก่นสามารถลดการนำเข้าวัตถุดิบใหม่ และหันมาใช้ทรัพยากรที่มีอยู่แล้วให้เกิดประโยชน์สูงสุด เศษเส้นไหมมากมายจากการทอผ้าถุงถูกนำมาออกแบบเทคนิคการทอใหม่ เกิดเป็นลายใหม่ที่แลดูคล้ายการทับซ้อนของชั้นหินฟอสซิลในอุทยานธรณีภูเวียง ประสานกับการจับคู่สีทำให้ดูร่วมสมัย เกิดเป็นผืนผ้าที่นำไปต่อยอดเป็นสินค้าอื่นๆ ได้อีกมากมาย

8-79

4. จังหวัดสกลนคร (แดนสีคราม) ภายใต้แนวคิด “Keep Kram @ Sakon Nakorn” ครามสกล เป็นเอกลักษณ์เสน่ห์ไทยประจำท้องถิ่น สีครามเป็นสีที่อยู่กึ่งกลางระหว่างยามราตรีและท้องทะเลลึกที่เรารู้จักกันในชื่อ “เนวี่บลู” จัดอยู่ในประเภท “สีเย็น” ซึ่งมีคุณสมบัติเมื่อนำไปผสมกับสีอื่นๆ จะทำให้เกิดสีใหม่ที่ยังแฝงเอกลักษณ์ของสีครามเอาไว้ ให้ความรู้สึกผ่อนคลายจิตใจ บอกเล่าผ่านภาพของทิวเขาภูพานบนผืนผ้าคราม บรรจงปักด้วยเส้นไหมหลากสีสันที่ สะท้อนภาพความสัมพันธ์ของผืนป่าและชุมชนอย่างชัดเจน

5. จังหวัดนครศรีธรรมราช (แดนถมนคร) ภายใต้แนวคิด “Nakorn Sri Reserve : ขลังนคร” งานถมนคร ศิลปะโบราณที่สร้างสรรค์ลวดลายสีเงินและดำอันประณีต เป็นงานศิลปหัตถกรรมชั้นสูงที่คนนครศรีธรรมราช และคนไทยภาคภูมิใจมาตั้งแต่สมัยโบราณ ต้องรักษาให้คงอยู่ในบริบทปัจจุบัน โดยประยุกต์ใช้เทคนิคและพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ ทำให้เกิดรูปแบบที่มีทั้งความสวยงาม ร่วมสมัย มีคุณค่า และยังคงความเป็นอัตลักษณ์จากภูมิปัญญาดั้งเดิม

6. จังหวัดปัตตานี (บาติกแดนใต้) ภายใต้แนวคิด “Diversity Pattani” การผสมผสานอย่างกลมเกลียวของพหุวัฒนธรรมในปัตตานี ก่อให้เกิดความสวยงามของทรัพยากรธรรมชาติ มรดกทางวัฒนธรรมของพื้นที่

11-41

สร้างสรรค์ที่มีความเป็นเอกลักษณ์สูง ความงดงามถูกถ่ายทอดลงบนงานหัตถศิลป์อย่าง “ผ้าบาติก” ซึ่งแต่ละผืนถูกรังสรรค์ด้วยเทคนิคฝีมือการวาดเทียนด้วยมือแบบโบราณ หรือการปั๊มด้วยบล็อกไม้หรือการให้สีสัน เกิดเป็นผลงานสร้างสรรค์ที่ไม่ซ้ำใคร

สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมชมการจัดแสดงผลงาน Thai Craft Destination งานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-15 กันยายน 2567 ณ บริเวณ ชั้น G โครงการเวลา แอท สินธร วิลเลจ หลังสวน กรุงเทพมหานคร หรือ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ tourismproduct.tourismthailand.org หรือ โทร. 1672 Travel Buddy

เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ททท. เตรียมจัดงานเฟสติวัลครั้งยิ่งใหญ่ “ใส่ไทย เฟสติวัล” ร่วมผลักดันให้เป็น SOFT POWER ด้านแฟชั่นให้เป็นงานที่ยิ่งใหญ่ส่งท้ายปีอีกครั้ง
ขอนแก่นกับงานยักษ์ใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในเดือนธันวาคม 2567 งานแถลงข่าว “Plara Morlam Isan to the World’24”
เปิดฉาก! สีฐานเฟสติวัล 2024 ลอยกระทงปีนี้ที่ มข.แบบ “วิถีแห่งอีสาน สีฐานมูเตลู”
“ใส่ไทย เฟสติวัล” SOFT POWER ด้านแฟชั่นยิ่งใหญ่ส่งท้ายปี เริ่มขึ้นแล้ว
กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม : “4 วัด 1 วัง เมื่อครั้งต้นกรุงฯ” ชวนย้อนเวลา ส่องวิถี ปลุกแสงสี พระนครศรีอยุธยา ในวันที่ 9 – 17 พ.ย. 2567
รีบๆเลยก่อนสิทธิ์หมด! ททท. จัดแคมเปญ “แอ่วเหนือ…คนละครึ่ง”