วันเสาร์, 5 ตุลาคม 2567

‘บิ๊กตู่’ ขอโทษสื่อสารผิด แจก 5 พันครบ 3 เดือนแน่นอน

17 เม.ย. 2020
1649

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ ครั้งที่ 1/2563 โดยระบุว่า การประชุมวันนี้จำเป็นต้องมีการปรับวงเงินในการใช้จ่ายให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยรายละเอียดทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายที่มีอยู่แล้วทั้งหมด

พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันว่า รัฐบาลพร้อมจ่ายเงินเยียวยาให้กับประชาชน เป็นระยะเวลา 3 เดือนแน่นอน พร้อมขอโทษที่การแถลงข่าวเมื่อวานนี้ทำให้เกิดความไม่สบายใจ จนนำไปสู่การเคลื่อนไหวอีกมากมาย

“เมื่อวานผมต้องขอโทษด้วย ไม่ได้มีเจตนาจะพูดให้เข้าใจอย่างนั้น ผมต้องการให้เข้าใจว่า เราจะใช้เงินกันอย่างไร ไม่ได้หมายความว่าเรามีความไม่แน่นอนหรือจะไม่ให้เงินอีกแล้ว ยืนยันว่าเราจะดูแลทั้งแรงงานที่อยู่ในระบบและนอกระบบ รวมถึงกลุ่มอาชีพอิสระ และกำลังพิจารณากลุ่มเกษตรกรด้วย ซึ่งรัฐบาลจะมีมาตรการในการคัดกรองเรื่องเหล่านี้ทั้งหมด” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า หลังจากจ่ายเงินเยียวยาให้กับประชาชนครบ 3 เดือน (เม.ย.-มิ.ย.) รัฐบาลจะประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 อีกครั้งหนึ่ง หากสถานการณ์ดีขึ้น ประชาชนกลับไปทำงานได้ตามปกติ ก็ไม่จำเป็นต้องหาเงินมาเยียวยา แต่หากสถานการณ์ยังมีปัญหาก็ค่อยพิจารณากันต่อไป

นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ไทยพบผู้ติดเชื้อลดลง ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขชี้แจงว่า หากพ้น 14 วันไปแล้วจำนวนผู้ป่วยยังลดลงต่อเนื่อง นั่นหมายความว่าควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว ซึ่งหลังจากนั้นจะพิจารณาปลดล็อคในบางมาตรการ ขอทุกคนอย่าเพิ่งเรียกร้องให้มีการเปิดกิจการทั้งหมด เพราะตอนนี้จำเป็นต้องควบคุมการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง และเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องให้ความร่วมมือ เพราะเราอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ

“ขอบคุณ ขอโทษที่ทำให้ทุกคนไม่มั่นใจ ขอให้มั่นใจในตัวผม มั่นใจในกระทรวงคลังและบุคลากรของผม ทุกคนทำอย่างเต็มที่ บางครั้งยากบ้าง ง่ายบ้าง ทันใจบ้าง ไม่ทันใจบ้าง ผมทราบดีว่าทุกคนเดือดร้อน แต่ทั้งนี้ต้องทยอยดำเนินการ แต่ยืนยัน 3 เดือน โอเคหรือไม่” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ขณะที่ นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง กล่าวถึงแหล่งเงินกู้ 1 ล้านล้านบาทว่า เรามีแหล่งเงินกู้อยู่แล้ว โดยมอบหมายให้ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะไปพิจารณาว่าจะใช้เงินจากแหล่งใดบ้าง ส่วนใหญ่จะเป็นแหล่งเงินในประเทศ อาจจะเป็นการกู้จากสถาบันการเงิน หรือออกเป็นพันธบัตรรัฐบาลก็เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ ทั้งนี้ที่ประชุมยังไม่ได้หารือเกี่ยวกับการขยายเพดานหนี้สาธารณะ และยังคงไว้ที่ 60% เนื่องจากยังไม่ได้ดำเนินการกู้เงินเกิดขึ้น อย่างไรก็ตามจะพิจารณารายละเอียดตามความเหมาะสม ให้สอดรับการสถานการณ์ในปัจจุบัน