วันพฤหัสบดี, 28 พฤศจิกายน 2567

โฆษกฯรัฐบาลเดินหน้าพร้อมรับนักท่องเที่ยวต่างชาติควบคู่การดูแลด้านสาธารณสุขของประชาชนไทย ยอดฉีดวัคซีนสะสม 70 ล้านโดส

โฆษกรัฐบาลเผย รัฐบาลเดินหน้าพร้อมรับนักท่องเที่ยวต่างชาติควบคู่การดูแลด้านสาธารณสุขของประชาชนไทย ยอดฉีดวัคซีนสะสม 70 ล้านโดส ย้ำประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตนเองอย่างเคร่งครัดต่อไป สร้างการมีส่วนร่วมเพื่อพลิกโฉมประเทศ

วันนี้ (24 ต.ค.64) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่ รัฐบาลประกาศนโยบายเดินหน้าเปิดประเทศรับการเดินทางเข้าประเทศไทย โดยไม่ต้องกักตัว สำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน เป็นต้นไป นั้น พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการดูแลด้านสาธารณสุขของประชาชนไทย ซึ่งขณะนี้ ยอดการฉีดวัคซีนสะสมของไทยกว่า 70 ล้านโดสแล้ว แบ่งเป็น

 เข็มที่ 1 สะสม 39,836,306 โดส คิดเป็น 55.28% ของประชากรไทยทั่วประเทศ เข็มที่ 2 สะสม 28,293,679 โดส คิดเป็น39.26% ของประชากรไทยทั่วประเทศ หรือคิดเป็น 56.59% ของกลุ่มเป้าหมายประมาณ 50 ล้านคน (หรือ 70% ของประชากรไทยทั่วประเทศ) เข็มที่ 3 สะสม 2,072,629 โดส และเข็มที่ 4 สะสม 1,631 โดส รวม 70,204,245 โดส นอกจากนี้ในส่วนของภาพรวมการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้กับเด็กนักเรียนอายุ 12 ขึ้นไป (นักเรียนชั้น ป.6/ม.1/นักศึกษา ปวช. 1-3/ปวส. 1-2) ฉีดสะสมแล้วจำนวน 2,032,794 คน คิดเป็น 53.78% (จากจำนวนที่ประสงค์ฉีดวัคซีน 3,779,871 คน) เตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดภาคเรียนที่ 2/2564 ในรูปแบบ On-Site ต่อไป 

โฆษกประจำสำนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า รัฐบาลเดินหน้าฉีดวัคซีนตามแผน ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อเริ่มค่อยๆลดลงอย่างต่อเนื่อง  เห็นผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม  โดยเฉพาะอย่างยิ่งจำนวนผู้เสียชีวิตต่ำกว่า 100 ราย กว่าครึ่งเดือนแล้ว โดยสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ประจำวัน (23 ตุลาคม 2564) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 9,742 ราย และหายป่วยกลับบ้าน 10,182 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสมตั้งแต่ 1 เม.ย. 2564 จำนวน 1,812,268 ราย และยอดหายป่วยสะสม1,693,203 ราย  ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่มีจำนวนลดลงอย่างต่อเนื่องตำกว่าหมื่นรายหลายวันติดต่อกันแล้ว ส่วนยอดผู้ป่วยหายกลับบ้านมีจำนวนเพิ่มขึ้น ยอดผู้เสียชีวิตลดลง สะท้อนความบริหารสถานการณ์โควิด -19 ของรัฐบาลและความร่วมมือร่วมใจของบุคลากรทางการแพทย์ และประชาชนทุกภาคส่วนได้เป็นอย่างดี

“นายกรัฐมนตรีย้ำถึงการดำเนินการและการออกมาตรการต่าง ๆ ของรัฐบาล คำนึงถึงประโยชน์โดยรวมของประเทศเป็นสำคัญแม้มาตรการบางอย่างอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนบ้างโดยพยายามดูทั้งความปลอดภัยด้านสุขภาพและการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เดินหน้าต่อไป  แนวทางการเปิดประเทศ หรือกิจกรรมต่างๆในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ปลายปีนี้ ไม่ว่าจะจัดโดยภาครัฐหรือเอกชน ต้องสอดคล้องกับมาตรการสาธารณสุขป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ลดความเสี่ยงในการเกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ ให้ความสำคัญกับการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะการเร่งฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมไม่ต่ำว่าร้อยละ 70 ของกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อทำให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวและมาตรการควบคุมดูแลทางสาธารณสุขที่เป็นระบบ ขอให้คนไทยทุกคนและทุกภาคส่วนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการ “พลิกโฉมประเทศ” ด้วยการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันส่วนบุคคล  Universal Prevention และ COVID-19 Free Setting  อย่างเคร่งครัด เพื่อร่วมกันผลักดันเศรษฐกิจสู่การเปิดประเทศที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน” โฆษกประจำสำนายกรัฐมนตรี กล่าว

ผู้สนับสนุนแพลตฟอร์มข่าว-0628929797 DNk79R.jpg Phh9Db.jpg sAyptI.jpg DasKLf.jpg Da2r0R.png DpkFp1.jpg banner1-08.gif Aqh3Ka.jpg Dp1Qd0.png 2wk8Dt.jpg 2wcwIv.jpg

เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ททท. เตรียมจัดงานเฟสติวัลครั้งยิ่งใหญ่ “ใส่ไทย เฟสติวัล” ร่วมผลักดันให้เป็น SOFT POWER ด้านแฟชั่นให้เป็นงานที่ยิ่งใหญ่ส่งท้ายปีอีกครั้ง
ขอนแก่นกับงานยักษ์ใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในเดือนธันวาคม 2567 งานแถลงข่าว “Plara Morlam Isan to the World’24”
เปิดฉาก! สีฐานเฟสติวัล 2024 ลอยกระทงปีนี้ที่ มข.แบบ “วิถีแห่งอีสาน สีฐานมูเตลู”
“ใส่ไทย เฟสติวัล” SOFT POWER ด้านแฟชั่นยิ่งใหญ่ส่งท้ายปี เริ่มขึ้นแล้ว
กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม : “4 วัด 1 วัง เมื่อครั้งต้นกรุงฯ” ชวนย้อนเวลา ส่องวิถี ปลุกแสงสี พระนครศรีอยุธยา ในวันที่ 9 – 17 พ.ย. 2567
รีบๆเลยก่อนสิทธิ์หมด! ททท. จัดแคมเปญ “แอ่วเหนือ…คนละครึ่ง”