วันอาทิตย์, 8 กันยายน 2567

โฆษกฯรัฐบาลเดินหน้าพร้อมรับนักท่องเที่ยวต่างชาติควบคู่การดูแลด้านสาธารณสุขของประชาชนไทย ยอดฉีดวัคซีนสะสม 70 ล้านโดส

โฆษกรัฐบาลเผย รัฐบาลเดินหน้าพร้อมรับนักท่องเที่ยวต่างชาติควบคู่การดูแลด้านสาธารณสุขของประชาชนไทย ยอดฉีดวัคซีนสะสม 70 ล้านโดส ย้ำประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตนเองอย่างเคร่งครัดต่อไป สร้างการมีส่วนร่วมเพื่อพลิกโฉมประเทศ

วันนี้ (24 ต.ค.64) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่ รัฐบาลประกาศนโยบายเดินหน้าเปิดประเทศรับการเดินทางเข้าประเทศไทย โดยไม่ต้องกักตัว สำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน เป็นต้นไป นั้น พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการดูแลด้านสาธารณสุขของประชาชนไทย ซึ่งขณะนี้ ยอดการฉีดวัคซีนสะสมของไทยกว่า 70 ล้านโดสแล้ว แบ่งเป็น

 เข็มที่ 1 สะสม 39,836,306 โดส คิดเป็น 55.28% ของประชากรไทยทั่วประเทศ เข็มที่ 2 สะสม 28,293,679 โดส คิดเป็น39.26% ของประชากรไทยทั่วประเทศ หรือคิดเป็น 56.59% ของกลุ่มเป้าหมายประมาณ 50 ล้านคน (หรือ 70% ของประชากรไทยทั่วประเทศ) เข็มที่ 3 สะสม 2,072,629 โดส และเข็มที่ 4 สะสม 1,631 โดส รวม 70,204,245 โดส นอกจากนี้ในส่วนของภาพรวมการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้กับเด็กนักเรียนอายุ 12 ขึ้นไป (นักเรียนชั้น ป.6/ม.1/นักศึกษา ปวช. 1-3/ปวส. 1-2) ฉีดสะสมแล้วจำนวน 2,032,794 คน คิดเป็น 53.78% (จากจำนวนที่ประสงค์ฉีดวัคซีน 3,779,871 คน) เตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดภาคเรียนที่ 2/2564 ในรูปแบบ On-Site ต่อไป 

โฆษกประจำสำนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า รัฐบาลเดินหน้าฉีดวัคซีนตามแผน ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อเริ่มค่อยๆลดลงอย่างต่อเนื่อง  เห็นผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม  โดยเฉพาะอย่างยิ่งจำนวนผู้เสียชีวิตต่ำกว่า 100 ราย กว่าครึ่งเดือนแล้ว โดยสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ประจำวัน (23 ตุลาคม 2564) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 9,742 ราย และหายป่วยกลับบ้าน 10,182 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสมตั้งแต่ 1 เม.ย. 2564 จำนวน 1,812,268 ราย และยอดหายป่วยสะสม1,693,203 ราย  ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่มีจำนวนลดลงอย่างต่อเนื่องตำกว่าหมื่นรายหลายวันติดต่อกันแล้ว ส่วนยอดผู้ป่วยหายกลับบ้านมีจำนวนเพิ่มขึ้น ยอดผู้เสียชีวิตลดลง สะท้อนความบริหารสถานการณ์โควิด -19 ของรัฐบาลและความร่วมมือร่วมใจของบุคลากรทางการแพทย์ และประชาชนทุกภาคส่วนได้เป็นอย่างดี

“นายกรัฐมนตรีย้ำถึงการดำเนินการและการออกมาตรการต่าง ๆ ของรัฐบาล คำนึงถึงประโยชน์โดยรวมของประเทศเป็นสำคัญแม้มาตรการบางอย่างอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนบ้างโดยพยายามดูทั้งความปลอดภัยด้านสุขภาพและการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เดินหน้าต่อไป  แนวทางการเปิดประเทศ หรือกิจกรรมต่างๆในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ปลายปีนี้ ไม่ว่าจะจัดโดยภาครัฐหรือเอกชน ต้องสอดคล้องกับมาตรการสาธารณสุขป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ลดความเสี่ยงในการเกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ ให้ความสำคัญกับการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะการเร่งฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมไม่ต่ำว่าร้อยละ 70 ของกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อทำให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวและมาตรการควบคุมดูแลทางสาธารณสุขที่เป็นระบบ ขอให้คนไทยทุกคนและทุกภาคส่วนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการ “พลิกโฉมประเทศ” ด้วยการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันส่วนบุคคล  Universal Prevention และ COVID-19 Free Setting  อย่างเคร่งครัด เพื่อร่วมกันผลักดันเศรษฐกิจสู่การเปิดประเทศที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน” โฆษกประจำสำนายกรัฐมนตรี กล่าว

ผู้สนับสนุนแพลตฟอร์มข่าว-0628929797 DNk79R.jpg Phh9Db.jpg sAyptI.jpg DasKLf.jpg Da2r0R.png DpkFp1.jpg banner1-08.gif Aqh3Ka.jpg Dp1Qd0.png 2wk8Dt.jpg 2wcwIv.jpg

เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ททท. จับมือพันธมิตรสายการบินเปิดโครงการ “วันธรรมดาน่าเที่ยวกับสายการบิน” จัดเต็ม Super Deal โปร 9 เดือน 9 เปิดสำรองที่นั่งและเริ่มเดินทาง 9 กันยายนนี้
Seafood from Norway เดินสายสู่ขอนแก่นกับแคมเปญ “Norwegian Thai Taste วัตถุดิบอันล้ำค่า…สู่อาหารไทย 4 ภาค”
ททท. ร่วมลงนาม LOI กับ TUNIU แพลตฟอร์มท่องเที่ยวครบวงจร เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพในตลาดจีน
สวนสัตว์ขอนแก่น จัดวุ้นผลไม้ต้อนรับ”ปลื้ม”และ ” บุษบา” หมีหมาสมาชิกใหม่ รอสร้างสีสันให้นักท่องเที่ยว
เซเว่นฯ จับมือ ททท. สร้างปรากฎการณ์ “แสตมป์เสน่ห์ไทย ใครๆ…ก็หลงรัก” ผ่านแคมเปญสุดจึ้งแห่งปีโดยมี “โดราเอมอน”
ททท. เปิดตัวโครงการ “ลดโลกเลอะกับกลัฟ เที่ยวทัชใจ ดีต่อใจ ดีต่อโลก”